การแผ่เมตตาอยู่บ่อยๆ นี้
จะเป็นที่รักของเทวดาและอมนุษย์
ดังนั้นเมื่ออานิสงส์ของการแผ่เมตตา
ศัตรูที่มุ่งอาฆาตมาดร้ายกับเรานั้น
จะอ่อนกำลังลง
ถ้ามีศัตรูที่ถาวรเค้าก็จะทำอะไรเรามิได้
.
เมื่อเราแผ่เมตตาอยู่บ่อยๆ
อำนาจแห่งแห่งกระแสการแผ่เมตตานี้แล..
ย่อมทำให้ชนะศัตรูหมู่มารได้
อย่างน้อยอันดับแรกก็คือการชนะใจตัวเอง
ไม่ให้มีความอาฆาตพยาบาท ผูกอาฆาตผูกใจเจ็บ..
อย่างนี้แลเค้าเรียกว่า
การปลดพันธนาการด่านแรกลงเสียได้
เมื่อเราทำอยู่บ่อยๆ แล้ว
ไม่มีจิตที่จะอาฆาตพยาบาทใคร
.
แรงอาฆาตพยาบาทในจิตของเรานั้น
เมื่อมันลดน้อยลงจนไม่มีแล้วนี้
จะหาความอาฆาตพยาบาทของใคร
มาเบียดเบียนอาฆาตพยาบาทเรา
ให้เกิดโทษทัณฑ์เกิดภัยนั้น..ก็ทำได้ยาก
.
เพราะแรงทั้งหลายแห่งกรรม
มันเกิดจากใจเรานั้นแลที่ไปผูกไปอาฆาต
ไปจองเวรไปพยาบาท
เมื่อเราลดละอาฆาตพยาบาทเสียได้อย่างนี้
เค้าเรียกเป็นการป้องกันภัยไปในตัว
จะไปที่ใด ตำบลใด สถานที่ใดแล้ว
หมั่นเจริญเมตตาเป็นนิตย์
ก็ด้วยอำนาจบุญกุศลหรือจิตเรา
มีความปรารถนาที่จะแผ่เมตตานี้
นั้นการทำการสิ่งใดมันก็เรียกเป็นการเปิดทาง
ให้สิ่งที่เราทำนั้นมันสมความตั้งมั่นปรารถนาได้...
สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี
จากเพจ ธรรมะมหัศจรรย์ ตามรอยธรรมสมเด็จโต
สถานปฏิบัติธรรมพรหมรังสี
Image by ChrisFiedler from pixabay
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น