ความเพียรในการภาวนาคือหมั่นเฝ้ารู้



จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

มรรคผลนิพพานยังเป็นสิ่งที่เป็นไปได้



มรรคผลนิพพานในยุคนี้
ก็ยังเป็นสิ่งที่เป็นไปได้สำหรับทุกคน
คือท่านสอนไว้ว่า “ตราบใดที่ยังมีผู้เจริญสติปัฏฐาน
โลกจะไม่ว่างจากพระอรหันต์”
เพราะฉะนั้น ถ้าพวกเราทุกคนในที่นี้เจริญสติปัฏฐาน 
พวกเราก็มีโอกาสที่จะบรรลุมรรคผลนิพพาน
กับเขาบ้างเหมือนกัน

อ.ประสาน พุทธกุลสมศิริ

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


ความเพียรที่ต้องฝึกให้เป็นนิสัย



การภาวนานั้น การรู้ตัวทั่วพร้อมสำคัญที่สุด
ก็คือการมีสติสัมปชัญญะ
คำว่าสติสัมปชัญญะนี้ ไม่ใช่สติของคนธรรมดาทั่วไป
แต่เป็นสติของนักปฏิบัติโดยตรง
สติคือตัวระลึก สัมปชัญญะคือการรู้ตัว
เราต้องมีสติให้มีการรู้ตัวอยู่ตลอด
การรู้ตัวนี้ ไม่จำเป็นที่จะต้องเอาความรู้สึกนี้
ไปไว้ที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย
เพียงแต่ให้มีความรู้สึกตื่นขึ้นที่ใจเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
การตื่นนี้ตื่นเพื่ออะไร
ก็เพื่อคอยดูว่ามีสิ่งใดกระทบ
ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ
เมื่อมีสิ่งกระทบแล้ว เรามีความรู้สึกอย่างไร
มีความโลภ ความโกรธหรือไม่
มีอารมณ์ดีชั่วเช่นไร
พิจารณาดูว่าอารมณ์หรือสิ่งที่เกิดขึ้น
เป็นคุณหรือเป็นโทษกับตนเองหรือไม่
ให้เราเห็นและพิจารณาใคร่ครวญเช่นนี้
อยู่ตลอดเวลา ๒๔ ชั่วโมง ยกเว้นหลับ
นี่คือความเพียร ที่เราต้องฝึกให้เป็นนิสัย
มีความเพียรเป็นหลักให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลา
ไม่ว่าจะเป็นยืน เดิน นั่ง นอน
หรือทำสิ่งอื่นใดอยู่ในอิริยาบถทั้ง ๔
นี่คือสติสัมปชัญญะ

ลุงหวีด บัวเผื่อน

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา