.
ถาม : กราบนมัสการค่ะ เป็นคนคิดมากวิตกกังวล และหงุดหงิดง่ายค่ะ
ปกติฝึกในรูปแบบ ใช้ ‘พุทโธ’ เป็นเครื่องอยู่ค่ะ
ต่อมาหายไป ก็คอยรู้ทันจิตไหล
แต่ในชีวิตประจำวัน ไม่สามารถหาที่อยู่ให้จิตได้
มันว่างๆ แต่ก็คิดฟุ้งซ่านตลอด
นาน ๆ จะรู้ทีว่า เผลอบ้าง ฟุ้งซ่านบ้าง หลงบ้าง
ลองใช้ ‘พุทโธ’ หรือ ดูกายเคลื่อนไหว ก็ได้แค่ไม่กี่วินาที
แล้วก็หลงยาวเลยค่ะ ขอความเมตตา แนะนำด้วยค่ะ
.
ตอบ : ก่อนอื่น ให้เปลี่ยนมุมมอง ความรู้สึกใหม่
จาก ‘นักปฏิบัติ’ มาเป็น ‘นักศึกษา’
คือทำไว้ในใจว่า จะขอเรียนรู้ความจริง
คำว่า ‘ปฏิบัติ’ มันหลอกใจเราให้ทำอะไรที่ไม่ธรรมดา
เพื่อให้ได้สิ่งที่ไม่ธรรมดา
จิตขณะนี้มันเผลอ มันฟุ้ง ก็เป็นเรื่องธรรมดา
ถ้าเป็นนักปฏิบัติ.. ก็จะทำให้หายฟุ้ง บังคับมัน
ถ้าเป็นนักศึกษา.. ก็จะรู้ไปตามที่มันเป็น
.
นักปฏิบัติ
ถ้าทำได้ตามต้องการ ก็จะดีใจ ภูมิใจ รู้สึกว่า ‘เราเก่ง’
ถ้าทำไม่สำเร็จ ก็หงุดหงิด เครียด
.
นักศึกษา
จะได้องค์ความรู้ สะสมไปเรื่อย ๆ จนเข้าใจความจริงที่ซ่อนอยู่
คือเบื้องต้น จะเข้าใจลักษณะของสภาวะที่ปรากฏ
ว่ามันไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และไม่ใช่ตัวเรา
.
นักปฏิบัติ
เวลามีเครื่องอยู่ ก็มักจะเข้าใจว่า
จิตต้องอยู่กับเครื่องอยู่เท่านั้นจึงจะดี
พอจิตเผลอ จิตหลง ก็รีบบังคับจิตให้กลับ
ให้อยู่นิ่งๆ กะจะให้ได้ดีกันตรงนี้
.
นักศึกษา
จะมีเครื่องอยู่ เพียงเพื่อเอาไว้คอยสังเกตว่า
จิตเผลอเป็นอย่างไร
คือเอาไว้ศึกษาความจริงว่า จิตทำงานอย่างไร
เห็นครั้งหนึ่งแล้วยังไม่เข้าใจ..
ก็กลับมาที่เครื่องอยู่ เพื่อเรียนอีก
เริ่มเข้าใจแล้ว แต่ยังไม่แจ่มแจ้ง..
ก็กลับมาที่เครื่องอยู่ เพื่อเรียนอีก
ฉะนั้น ปัญหาไม่ได้เป็นที่ ‘เครื่องอยู่’
แต่อยู่ที่ ‘มุมมอง’
พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล
เรียบเรียงจากตอบโจทย์บนนิมฺมโลเพจ
วันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๖๐
Image by ev3177 from pixabay