ยอมให้อารมณ์เป็นอารมณ์ ให้จิตเป็นจิต



ความยินดีและความยินร้าย 
ความพอใจและความไม่พอใจ
เป็นเรื่องของอารมณ์ต่างหาก 
ให้รู้จักแยกจิตออกจากอารมณ์ 
ยอมให้อารมณ์เป็นอารมณ์ ให้จิตเป็นจิต 
นี่เราจะมีความสบายอยู่ตรงนี้

พระอาจารย์ชยสาโรภิกขุ

ภาวนาแล้วอยากเห็นภาพต่างๆ




บางคนภาวนา ไปอยากเห็นภาพต่างๆ เช่น นรก สวรรค์ เทวดา
การที่ได้เห็นสิ่งเหล่านี้ไม่มีอะไรแปลก
ที่ว่าไม่แปลกก็เพราะว่า เมื่อเราเห็นแล้ว 
กิเลสของเราก็ยังอยู่เหมือนเดิม
บางคนแถมยังทำให้เกิดกิเลสเพิ่มมากขึ้นอีกเสียด้วย...
คือถือว่าตนเองเป็นผู้วิเศษ ที่สามารถเห็นสิ่งต่างๆ เหล่านั้นได้
เลยไม่ยอมกราบไหว้ใครทั้งสิ้น จนกลายเป็น สัคคาวรณ์ มัคคาวรณ์
ปิดกั้นทางมรรค ทางผล ทางนิพพาน ไปโดยปริยาย


หลวงปู่คำดี ปภาโส

ดูอารมณ์เท่ากับกำหนดดูใจ



          ถ้าเรากำหนดดูอารมณ์ภายในใจก็เท่ากับเรากำหนดดูใจไปในตัว ใจมีอารมณ์แห่งความโลภก็ให้รู้ ใจมีอารมณ์แห่งความโกรธก็ให้รู้ ใจมีอารมณ์แห่งราคะก็ให้รู้…ให้เอาสติกำหนดเพ่งดูจุดของอารมณ์นั้นๆ ให้เห็นชัดภายในใจ ไม่นาน อารมณ์ภายในใจ ก็จะอ่อนกำลัง นี้เป็นอุบายวิธี ที่เราหนีไม่พ้น เราก็ต้องสู้แบบตัวต่อตัวด้วยกำลังสติ…

                                                                                         หลวงพ่อทูล ขิปปปัญโญ

คนภาวนาจะไม่สงสัย



          คนมีศรัทธาในทาน บางครั้งก็สงสัยในทาน คนมีศรัทธารักษาศีล บางครั้งก็สงสัยในศีล คนภาวนาจนตนเองรู้แจ้งเห็นจริงจะไม่สงสัยในเรื่องศีลทานภาวนา เพราะจิตมันเปิดความจริงออกมาให้เห็นทั้งหมด

                                                                                                หลวงปู่ชอบ ฐานสโม

ชีวิตที่ไม่มีการปฏิบัติธรรม เหมือนกับแผ่นดินที่ว่างเปล่า



ชีวิตที่ไม่มีการปฏิบัติธรรม
เหมือนกับแผ่นดินที่ว่างเปล่า
เหมือนกับภาชนะที่ปราศจากอาหาร
ย่อมหาประโยชน์อันใดมิได้
ผู้ปฏิบัติธรรม เปรียบเหมือนผู้ทรงพระไตรปิฎก
เหมือนไม้จันทน์ที่อยู่ในป่า 
ย่อมเป็นของหายาก

หลวงปู่ทอง สิริมงฺคโล

ไม่ยึด มันก็ไม่มีทุกข์




หัดไม่ให้ทุกข์ตรงนี้ 
ทุกข์มีอยู่ ก็ไม่ทุกข์
อย่างที่ของอะไรๆ ถ้ามีอยู่
ไม่ยึด มันก็ไม่มีทุกข์
เหมือนกับทุกขเวทนามีอยู่...
ถ้าเราไม่ยึด เราก็ไม่ทุกข์
เราหัดตรงนี้ 
หาความสุขใส่ตัวให้จงได้


หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี