มันเกิดของมันต่างหาก


วิปัสสนาจริงแล้ว 
ไม่ต้องคิดต้องนึก 
ไม่ต้องปรุงแต่ง 
.
มันเป็นเอง มันเกิดของมันต่างหาก 
เมื่อมันเกิดแล้ว จะต้องชัดแจ้งประจักษ์
ในพระไตรลักษณญาณด้วยตัวของตนเองต่างหาก
.
เมื่อปัญญาวิปัสสนาเกิดขึ้นในขณะจิตเดียวนั้น 
สิ้นสงสัยในธรรมทั้งหลาย 
.
เห็นสรรพสัตว์ในโลกเป็นสภาพอันเดียวกันหมดเลย 
ไม่มีต่ำ ไม่มีสูง ไม่มีน้อย ไม่มีใหญ่ ไม่มีหญิง ไม่มีชาย 
.
มีแต่ธาตุ ๔ เกิดขึ้นแล้วดับไปเท่านั้น

หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

Image by truthseeker08 from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


รู้สึกตัวอยู่กับปัจจุบันขณะ คือกำลังปฏิบัติธรรม


คนทั่วไปกำลังเพ้อฝันกับอดีตและอนาคต 
ไม่เคยรับรู้สิ่งที่ มีอยู่จริง 
จึงเพียงแต่พร่ำเพ้อถึงสิ่งที่จบไปแล้ว
กับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น เท่านั้นเอง
เพียงกลับมารับรู้ ตระหนักรู้ กำหนดรู้ 
รู้สึกตัว อยู่กับปัจจุบันขณะ 
นั่นแหละคุณกำลังปฏิบัติธรรม 
แต่ปัจจุบันก็มีไว้เพียงให้รับรู้เท่านั้น 
รู้แล้ว ทิ้งไปเดี๋ยวนี้ 
ปัจจุบันจึงไม่ได้มีไว้ให้ยึดถือครอบครอง 
พระพุทธเจ้าจึงตรัสไว้ในคาถาธรรมบทว่า 
“เธอจงเป็นผู้ปล่อยวางทั้งอดีต อนาคต และปัจจุบัน, 
จึงเป็นผู้ถึงฝั่งแห่งภพ, 
เธอผู้มีใจหลุดพ้นในธรรมทั้งปวงแล้ว,
จักไม่เข้าถึงชาติ ชรา อีกต่อไป"
(อุคคเสนเสฏฐิปุตตวัตถุ ๒๕/๓๔๘/๑๔๑)
นั่นคือการปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่น
ความทะยานอยาก
ในสิ่งทั้งหลายที่เป็นทั้งอดีต อนาคต และปัจจุบัน...

พระอาจารย์มหาวิเชียร ชินวังโส

Image by KatinkavomWolfenmond from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา