พวกเรามีหน้าที่ที่พระพุทธเจ้ามอบหมายให้ทุกคน
หน้าที่ประการแรก ทำประโยชน์ตนเอง ไม่ประมาทนะ
ทำประโยชน์ตนเองก็คือภาวนาเข้า มีสติ ฝึกให้มีสติขึ้นมา
ใครไม่มีสติ ก็ฝึกให้มีสติ
ใครไม่รู้จักสมาธิ ใจไม่เคยตั้งมั่น ก็ฝึกให้ใจตั้งมั่นขึ้นมา...
แล้วก็ตามรู้กายตามรู้ใจ ตามความเป็นจริง รู้อย่างที่เขาเป็น
ตามรู้อย่างนี้เรื่อยๆ จนเกิดปัญญา
ปัญญาในทางศาสนาพุทธ คือการเห็นความเป็นจริงของกายใจ
ปัญญาในทางศาสนาพุทธ ไม่ใช่เรื่องเฉลียวฉลาดปราดเปรื่องอะไรหรอก
ถ้าเราเห็นความจริงของกายของใจได้ เราจะพ้นทุกข์
เพราะอะไร เพราะทุกข์อยู่ที่กาย ทุกข์อยู่ที่ใจ
ทุกข์ไม่ได้อยู่ที่คนอื่น ทุกข์ไม่ได้อยู่ที่สิ่งอื่น
ทุกข์อยู่ในกาย ทุกข์อยู่ในใจนี้เอง
ดังนั้น ถ้าเรามีสติเรียนรู้กายเรียนรู้ใจมากๆ เข้า
วันหนึ่งจิตมันไม่ยึดกายยึดใจแล้ว ปล่อยวางไม่ยึดถือ
กายจะเป็นอย่างไร จะปรวนแปรจะแก่จะเจ็บจะตาย
จิตไม่ทุรนทุรายด้วยเลย
ฝึกไปถึงจุดหนึ่ง จิตจะไม่กระเพื่อม
จิตไม่ยึดถืออะไรเลย จะเป็นอันเดียวกับโลกธาตุ
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา