ให้กำหนดสติรู้จิต เพียงอย่างเดียว



อย่าไปไขว่คว้าอะไร ให้มันมากมายนัก 
ให้กำหนดสติรู้จิต เพียงอย่างเดียว 
บาปมันเกิดที่จิต บุญมันเกิดที่จิต 
ดีชั่วเกิดที่จิต 
สวรรค์นิพพานเกิดที่จิต 
มันไม่ได้เกิดที่อื่น..

หลวงปู่แหวน สุจิณโณ

ให้บำเพ็ญจิตจนไม่ติดดี ติดชั่ว



          ทางพระสอนให้ละชั่ว ทำความดี แต่ก็ไม่ให้ติดอยู่ในความดี ให้บำเพ็ญจิตให้ยิ่งขึ้นจนถึงไม่ติดดีติดชั่ว จึงจะพ้นจากโลกนี้ไปได้ เพราะแม้คุณความดีจะส่งผลให้เป็นสุขไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์ เป็นเทพ อินทร์ พรหม ก็ตาม แต่เมื่อกำลังของกุศลกรรมความดีนั้นๆ หมดลง ก็ย่อมต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก ทางพระจึงมุ่งสอนให้มุ่งภาวนา ทำจิตให้รวม ระวังตั้งมั่น ทำจิตให้มีปัญญารู้ความเป็นจริงด้วยตนเอง จนถอดถอนอุปทานความยึดมั่นถือมั่นต่างๆ ออกเสียจึงจะเป็นไปเพื่อความสิ้นภพสิ้นชาติ หมดทุกข์หมดยากโดยแท้จริง


                                                                                                หลวงปู่สิม พุทธาจาโร

อย่าเอาแต่นั่งหลับตา ใช้ไม่ได้



          อย่าเอาแต่นั่งหลับตา ใช้ไม่ได้ คนที่หลับตาเก่งนานๆ จะนึกว่าจะได้กรรมฐานดี ฉันไม่เชื่อ เพราะถ้าจะดีจริงๆ มันต้องดีทั้งหลับตา ดีทั้งลืมตา ดีทั้งอยู่ในที่สงัด ดีทั้งที่เวลาร่างกายปกติและก็ดีทั้งที่เวลาร่างกายไม่ปกติ และก็ดีทั้งในขณะที่คนเขาด่าเรา อารมณ์ของเราจะต้องสม่ำเสมอกัน ไม่ขึ้นไม่ลง ใครเขาสรรเสริญก็เฉย ใครเขานินทาว่าร้ายก็เฉย อารมณ์เงียบสงัด เสียงเงียบสงัดเราก็เฉย เสียงจ๊อกแจ๊กจอแจโวยวาย เราก็เฉย  ลงเฉยเสียหมด มันก็หมดเรื่องกันความจริงการเจริญพระกรรมฐานนี้ เป็นการเจริญเพื่อทรงสติสัมปชัญญะ และก็เป็นการเจริญให้มีหิริและโอตตัปปะ คือมีความละอายต่อความชั่วเกรงกลัวผลของความชั่ว ใช้เวลานั่งสมาธิเสมอไป จิตใจเราจึงจะกำหนดถึงพระกรรมฐานอย่างนี้ใช้ไม่ได้ ต้องใช้อารมณ์ของเรานี้นึกถึงกรรมฐานเป็นปกติตลอดวัน 

                                                                                                      หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
                                       

จะมัวเฝ้าเอาอะไรกับกายนี้..



จะมัวเฝ้าเอาอะไรกับกายนี้
ตรองให้ดีแล้วจะเห็นเป็นสังขาร
คือไม่เที่ยงเป็นทุกข์อันตรธาน
เป็นเพียงสารสื่อนำ "ธรรมดา"

หลวงตาสุริยา วัดป่าโสมพนัส