ความทุกข์จะมี ก็ต่อเมื่อสติของเราอ่อนกำลัง
เมื่อใดที่จิตของเราอยู่ด้วยความแจ่มแจ้ง อยู่ด้วยความโปร่งโล่ง ความทุกข์ก็จะไม่มี ความทุกข์จะมี ก็ต่อเมื่อสติของเราอ่อนกำลัง
หลวงตาสุริยา วัดป่าโสมพนัส (ส.มหาปัญโญภิกขุ)
ทำจิตให้ว่างจากร่างกายและอารมณ์ เป็นทางพ้นทุกข์
ผู้เพียรทำจิตให้ว่างจากร่างกาย หรืออารมณ์ต่างๆ แบบนี้ เป็นแบบของพระอริยเจ้า เป็นสมาธิเป็นวิปัสสนาญาณอยู่ด้วยกัน ทำได้ทุกเวลา ทุกอิริยาบถ นั่ง นอน ยืน เดิน ทำได้ทั้งที่อยู่คนเดียวและอยู่แบบหมู่คณะ เป็นทางหลุดพ้นทุกข์ได้อย่างแน่นอน เป็นทางลัดตรงไปสู่จุดหมายปลายทางคือ พระนิพพาน
หลวงปู่ดาบส สุมโน
ยอดความสุขที่เป็นมิจฉาทิฐิ
ทุกวันนี้ปรากฏว่ามีชาวพุทธมากมายที่ถือว่าความร่ำรวย
การมีอำนาจ ชื่อเสียง ยศฐาบรรดาศักดิ์
ความพรั่งพร้อมด้วยวัตถุ คือยอดความสุขของฆราวาส
ความคิดอย่างนี้ท่านเรียกว่า "มิจฉาทิฐิ"
เพราะจะเป็นเหตุของการประพฤติที่เป็นพิษเป็นภัยแก่ตนเอง
ต่อสังคม และต่อสิ่งแวดล้อม มันไม่เป็นความจริง
ความสุขดังกล่าวเป็นแค่ความสุขระดับล่าง
ย่อมมีทุกข์ไม่มากก็น้อยเจือปนอยู่เสมอ
ชยสาโรภิกขุ
ผู้มีสติย่อมไม่ปล่อยใจไปเป็น “ผู้ทุกข์”
แม้ความทุกข์จะจรเข้ามา แต่ผู้มีสติย่อมไม่ปล่อยใจไปเป็น “ผู้ทุกข์” หากเป็นเพียง “ผู้เห็นความทุกข์” ผู้มีสติย่อมไม่ตีอกชกหัวเพราะเข้าใจไปว่าตน “มีทุกข์” เหลือประมาณ หากเห็นความทุกข์นั้นเป็นเพียงอาคันตุกะที่จรเข้ามา หากไม่เอาตัวตนเข้าไปแบกรับและปรุงแต่งต่อเติม มันย่อมจางหายไปในที่สุด
หลวงพ่อคำเขียน สุวัณโณ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)