ความสุขยิ่งไม่สนใจยิ่งดี


สุขที่เกิดจากการปฏิบัติธรรม นี่ไม่ต้องปฏิเสธ แต่ไม่ต้องไปสนใจมัน 
เหมือนเราปฏิบัติไปแล้วเกิดความรู้สึกปลอดโปร่งอิ่มเอมขึ้นมา
แค่นั้น ไม่ต้องไปสนใจมัน 
ความสุขยิ่งไม่สนใจยิ่งดี 
พอไปสนใจมันเข้าก็ยึดถือ พอยึดถือมันก็หายไป 
พอมันหายไป ก็คร่ำครวญ แปรเป็นความทุกข์
เมื่อสุขเกิดเราไปยึดเข้านี่มันกลับเป็นความตึงเครียด 
เราควรจะมีความสุข แต่เป็นความสุขเฉยๆ 
ทุกข์ก็ทุกข์เฉยๆ 
มีความเฉยๆ อยู่ในสุข – ทุกข์ 
ดีใจเฉยๆ ไม่ได้ดีใจจนเสียสติ 
เสียใจก็เสียใจเฉยๆ คนที่รักตายจากไปก็เสียใจ 
แต่ก็เสียใจเฉยๆ ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น

ท่านเขมานันทะ

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



เราจะรู้ว่าอะไรเป็นแก่นสาร เมื่อเรารู้สึกตัว


การที่เราไม่เห็นจิตประภัสสร
เพราะมีจิตสังขาร (การปรุงแต่ง) บังอยู่ 
ให้เรารู้ทันมัน
อย่าไปติดแค่เปลือกสังขาร..
เราจะรู้ว่าอะไรเป็นแก่นสาร เมื่อเรารู้สึกตัว
การปรุงแต่งมันเป็นที่พึ่งอะไรไม่ได้เลย
หมั่นรู้สึกตัวออกมาจากการปรุงแต่งทันทีที่รู้สึกตัว 
เช่นนี้แหละเราจะสามารถเห็นจิตที่ประภัสสร
เป็นธรรมชาติบริสุทธิ์ ที่มีอยู่ในทุกคนได้..
เห็นความจริงว่า ไม่ว่าปรุงแต่งดี หรือปรุงแต่งร้าย
ล้วนเป็นสิ่งแปลกปลอมที่เกิดดับ
แฝงอยู่ในความว่าง
จิตธาตุรู้เป็นเพียงธาตุธรรมชาติที่ไร้เจ้าของ
ไม่มีของใครอยู่ในนั้น
หากไม่หลงเปลือกปรุงแต่งความคิด
ธรรมชาติเดิมที่สะอาด สว่าง สงบ
ก็เปิดเผยตัวออกมา..

พระอาจารย์อำนาจ โอภาโส

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา