ธรรมะมีทั้งกลางวันและกลางคืน
ผู้ปฏิบัติพึงใช้อุบายปัญญาฟังธรรมเทศนาทุกเมื่อ
ถึงจะอยู่คนเดียวก็ตาม คืออาศัยการสำเหนียก
กำหนดพิจารณาธรรมอยู่ทั้งกลางวันและกลางคืน
ตา หู จมูก ลิ้น กาย ก็เป็นรูปธรรมที่มีอยู่ปรากฏอยู่
รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ (สัมผัส) ก็มีอยู่ปรากฏอยู่
ได้เห็นอยู่ได้ยินอยู่ได้สูดดมลิ้มเลีย และสัมผัสอยู่
จิตใจเล่า ก็มีอยู่ ความคิด นึกรู้สึกในอารมณ์ต่างๆ
ทั้งดีและร้ายก็มีอันมีอยู่โดยธรรมดา
เขาแสดงความจริง คือ ความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา
ให้ปรากฏอยู่ทุกเมื่อ เช่น ใบไม้เหลืองหล่นร่วงจากต้น
ก็แสดงความไม่เที่ยงให้เห็นได้ดังนี้ เป็นต้น
เมื่อผู้ปฏิบัติมาพินิจพิจารณาด้วยสติปัญญา
โดยอุบายนี้อยู่เสมอแล้วชื่อว่าได้ฟังธรรมอยู่ทุกเมื่อ
ทั้งกลางวันและกลางคืน
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
Image by ID 12019 from Pixabay
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา