ปัญญา กับ อุเบกขาจึงคู่กัน .



อุเบกขานั้น ไม่ต้องวางหรอก มันถึงเอง 
เพราะมันเป็น ..สภาพจิตอัตโนมัติที่เกิดจากปัญญา 
โดยปัญญามาปรับสภาพจิต 
ฉะนั้น ปัญญา กับ อุเบกขาจึงคู่กัน
.
คนทั่วไปนึกไม่ออกว่า .. อุเบกขาดีอย่างไร ?

นึกว่าเฉยๆ ไม่ได้เรื่องได้ราว 

อย่างนั้นเป็น .. เ ฉ ย โ ง่.
 ..

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ปยุตฺโต)

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


ทุกข์มี แต่ไม่มีทุกข์



คนมักมองทุกข์ เป็น Negative
แต่ เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสรู้ 
ทำไมท่านจึงตรัสให้ " รู้ทุกข์ " ล่ะ ?
สิ่งนี้ถือเป็น ปริญญายกิจ เลยนะ ..
การเรียนรู้ทุกข์ จนเห็นความจริงของทุกข์...

นั่นล่ะ! ปัญญาที่แท้จริงจึงจะเกิด


เรียกว่า ได้สาระ จากทุกข์
หากเห็นว่า ทุกข์เองก็มีคุณค่า
ยังจะรังเกียจทุกข์มั้ย ?
ยังจะทุกข์ เพราะ ทุกข์ มั้ย ?


เกิดมา แค่มี ขันธ์ ก็เป็นตัวทุกข์อยู่แล้ว
ขันธ์ ไม่ได้ทำให้ทุกข์
แต่เพราะความ " ไม่รู้ " ต่างหาก 
ว่าขันธ์ คือตัวทุกข์ .. 
จึงทำให้ทุกข์!!


เพราะไปยึดว่า ขันธ์ คือตัวเรา
มันจึงทุกข์


ถ้าเข้าใจสัจจะ " ความจริง " ข้อนี้
เราจะ ไม่ทุกข์ เพราะ ทุกข์ อีก

เรียกว่า ทุกข์มี ...
แ ต่ ไ ม่ มี ทุ ก ข์ ! ! ! ! ! !

พระอาจารย์นวลจันทร์ กิตติปัญโญ

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


ของมีแต่เดิม ไม่ค่อยรู้




พระพุทธเจ้าว่า 
ปะภัสสะระมิทัง ภิกขะเว จิตตัง 
ตญจะ โข อาคันตุเกหิ 
อุปักกิเลเสหิ อุปักกิลิฏฐัง 
จิตของเรานี้ ...

ประภัสสรผ่องใสอยู่แต่เดิม
แต่อุปกิเลสมันจรมา 
ทำให้จิตเราเศร้าหมอง
ของที่มีแต่เดิม เราก็ไม่รู้จัก
ไปรู้ แต่ของที่ว่าจรมา
กระตือรือร้น ในสิ่งที่จรมา
ของมีแต่เดิม ไม่ค่อยรู้
ก็เลยไม่ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์


หลวงพ่อคำเขียน สุวัณโณ

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


กลับมาค้นหาตัวเองให้เจอ




ให้กลับมาค้นหาตัวเองให้เจอ
การค้นหาตัวเองให้เจอมีทางเดียวคือ
ต้องกลับมารู้สึกตัว ไม่มีอย่างอื่นเลย


หลวงพ่อมหาดิเรก พุทธยานันโท

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

ปฏิบัติบูชาขาดสติไม่ได้




ปฏิบัติบูชาในทางพุทธศาสนาขาดสติไม่ได้ 
แม้แต่วินาทีก็ไม่ได้ 
คำว่าไม่ได้นั้นก็คือเมื่อขาดสติมันก็ขาดสมาธิ 
จิตตั้งมั่นไม่เต็มที่ 
เมื่อจิตตั้งมั่นไม่เต็มที่มันก็ขาดปัญญา ...

ความรอบรู้ในกองสังขาร 
ในอะไรต่อมิอะไรที่มันเกิดมันดับมันเป็น
มันมีอยู่ในเรื่องกายวาจาจิตของเรานั้นแหละ 
เมื่อมันขาดปัญญามันก็ไม่เต็มที่ 
เมื่อขาดสติขาดสมาธิขาดศีล 
ขาดศีลสมาธิปัญญา
ก็พาให้จิตใจนี้แหละย่อหย่อนท้อถอย
มักง่ายไม่สงบระงับ


หลวงปู่สิม พุทธาจาโร

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

เห็น แล้วไม่เป็น เป็นพรหมจรรย์



ภาวะที่ "เห็น" เห็น แล้วไม่เป็น 
นี่พรหมจรรย์เป็นอย่างนี้
ไม่ใช่โกนหัวห่มผ้าเหลือง
แล้วจึงถือว่าเป็นพรหมจรรย์
อยู่ตรงไหนก็ได้ เห็นแล้วไม่เป็น...

เห็นความสุข แต่ไม่เป็นผู้สุข 
เห็นความทุกข์ แต่ไม่เป็นผู้ทุกข์ เป็นต้น
นี่พรหมจรรย์บริสุทธิ์สิ้นเชิง 
ไม่เปรอะเปื้อนกับอะไร
เห็นหนึ่งเดียวไม่เปลี่ยนแปลง 
เป็นจุดยืนของนักปฏิบัติ 
เป็นมรรคเป็นผล


หลวงพ่อคำเขียน สุวัณโณ

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


พอสติทำหน้าที่ รู้ทัน




พอสติทำหน้าที่ รู้ทัน 
ปัญญาก็ทำหน้าที่ รู้แจ้ง


อ.กำพล ทองบุญนุ่ม

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

การนั่งสมาธินั้น เพื่อความเพียรในการอบรมสติ




การนั่งสมาธินั้น 
เพื่อความเพียรในการอบรมสติ
อย่าเพียงคิดแค่ว่าจะหาความสงบสบาย
ถ้าต้องการความสงบสบาย
คือเชื้อเชิญตัวตัณหามาขี่หัว
จะทำให้ฟุ้งซ่านยิ่งกว่าเดิม

พระอาจารย์ชุมพล พลปญฺโญ

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา




อย่าให้ใจออกไปสัมผัสของร้อน


ความจริงกิเลสทั้งหลายมันจรเข้ามา 
ใจของเราออกไปสัมผัส กับกิเลสนั้นๆ
ก็เกิดเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมา
ใจของเราออกไปเจอ ไปกระทบ 
พระพุทธเจ้าท่านจึงสอนให้มี สติ ให้สำรวมจิต สำรวมไว้ให้ดี 
อย่าให้ใจของเราออกไปสัมผัสกับของร้อน สัมผัสกับฟืนกับไฟ
เมื่อสำรวมจิตไว้ดีแล้ว สิ่งที่เคยกระทบเป็นฟืนเป็นไฟ
สิ่งนั้นเขาไม่แล่นมาหาใจ 
สิ่งเหล่านี้เขาเป็นโลกเขาพร้อมที่จะสัมผัสใจที่แล่นออกไปนั้น
จะอยู่ในอิริยาบถใดต้องให้มีความสำรวมใจ
เราจึงจะเป็นผู้ปฏิบัติธรรม จึงเป็นผู้ปฏิบัติจิต

หลวงปู่แบน ธนากโร

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา




ทุกคนมีพุทธะอยู่ในใจ


ทุกคนมีพุทธะอยู่ในใจ ไม่ยกเว้น
ถ้าใครมีศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญาที่ถูกต้อง
สามารถพิสูจน์เห็นอริยสัจได้ทุกคน
เสมือนว่าเรามีขุมทรัพย์แห่งความสุข
อยู่ในบ้านของตนเองอย่างมหาศาลแล้ว
เพียงแต่เรารู้จักวิธีขุดขึ้นมาใช้เท่านั้นเอง
เราก็จะไม่ทุกข์อีกตลอดไปชั่วกัปชั่วกัลป์

หลวงพ่อมหาดิเรก พุทธยานันโท

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา