ถ้าจิตว่างรู้ที่ความว่าง ถ้าจิตคิดรู้ที่ความคิด


ถ้าหากว่าท่านผู้ใดขี้เกียจ 
หรือไม่มีอะไรจะคิด
ก็ให้กำหนดจิตรู้ที่จิตเฉยๆ 
ถ้าจิตว่างรู้ที่ความว่าง 
ถ้าจิตคิดรู้ที่ความคิด 
ว่างรู้ที่ความว่าง 
คิดรู้ที่ความคิด 
ไล่ตามกันไปอย่างนี้ 
เมื่อเราฝึกหัดจนคล่องตัว จนชำนิชำนาญ 
ทีหลังเราอาจจะไม่ได้ตั้งใจกำหนดรู้
อารมณ์จิตหรือความคิด 
สติก็ทำหน้าที่ตามรู้คอยควบคุม 
เมื่อมีสติสัมปชัญญะ จิตของเราก็รู้ว่า
อะไรดีอะไรชั่ว อะไรผิด อะไรถูก 
มันจะรู้ของมันขึ้นมาเอง..

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

Image by NiklasErnst from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

ทุกข์เพราะไม่รู้ทันความคิด



คนเราไม่ได้ทุกข์เพราะความคิด
แต่ทุกข์เพราะไม่รู้ทันความคิด
ที่สำคัญแยกแยะไม่เป็น
ระหว่างความคิดที่มันคิดขึ้นเอง
กับความคิดที่เราตั้งใจคิด
ซึ่งถ้าเรารู้ทันความคิดที่มันคิดขึ้นเอง
เราจะเห็นกลไกการทำงานของขันธ์
ไม่ว่าจะเป็นสัญญาขันธ์. สังขารขันธ์ 
ซึ่งแน่นอนว่าการมองเห็นอย่างนั้น
จะทำให้เราเห็นตามความเป็นจริง
และยิ่งกว่านั้น เราจะเห็นอาการ
ของการหลงเข้าไปยึดมั่นถือมั่น
มีตัณหาอุปาทานกับความคิดที่มันเกิดขึ้น. 
อันนั้นต่างหากที่ทำให้เราเป็นทุกข์   
เพราะถ้าเราไปเข้าใจว่าเราทุกข์เพราะความคิด
เราก็จะมุ่งสู่การพยายามไม่คิดหรือกดข่มความคิด
ซึ่งมันเป็นหนทางที่ผิด
แต่ถ้าเราเข้าใจว่าเราทุกข์
เพราะเราไม่รู้ทันความคิด
เราก็จะมุ่งสู่การเจริญสติเรียกว่าเจริญมรรค 
เพื่อให้ความรู้สึกตัวนั้นไปรู้เท่าทันตามความเป็นจริง

พระอาจารย์ครรชิต อกิญจโน

Image by KELLEPICS from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา