อย่าหลงสุขชั่วคราว



ชีวิตนี้อย่าไปหลงความสุขชั่วคราว 
อย่าไปติดอยู่กับความสุขชั่วคราวนี้ 
แล้วจะไม่ได้พบความสุขอันไพบูลย์เลย

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ

สมมุติกับวิมุตติ



.... สมมุติ กับ วิมุตติ มันก็มานำกัน 
เมื่อวางสมมติออกได้แล้ว จิตก็วิมุตติ จิตก็หลุดพ้น
ถ้ามีสมมุติอยู่ มีเขา มีเราอยู่ มีดี มีชั่ว ก็ยังอยู่ในสมมุติ
ถ้าเลยดี เลยชั่ว ไม่มีดี ไม่มีชั่ว มันก็หลุดพ้นจากสมมุติ
สมมุติกันเอาเองว่ามันดี สมมุติกันเอาเอง ว่ามันชั่ว
ถ้าดีมาก็ถูกใจ ถ้าไม่ดีมาก็เสียใจ อยู่แค่นี้แหละ
สมมุติทำให้ดีใจ เสียใจ ร้องไห้ หัวเราะ
ถ้าวิมุตติแล้วไม่โศกเศร้า โศกาอะไรเลย
วางเฉยได้ อะไรดีก็ไม่มี อะไรชั่วก็ไม่มี
ไม่มีดีใจ เสียใจ ร้องไห้ หัวเราะ ไม่มีภาคภูมิใจอะไรเลย
เหมือนขอนไม้ที่ตายแล้ว มันไม่ทุกข์ร้อนกับอะไร ทั้งนั้น..

หลวงปู่ท่อน ญาณธโร

กายเนื้อเป็นปฏิกูล



กายเนื้อปฏิกูลชุ่มแฉะอยู่ ยังจะอวดดีว่าตัวมันสวย
ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง มีอสุภะอยู่ในตัว
อิมังปูติ ( สรีระอันเปื่อยเน่านี้ ) แฉะอยู่ จะว่าเป็นนางงามได้ยังไง
กระเพาะในท้องมีแต่อาหารเก่า อาหารใหม่
เสริมสวยยังไง หนังหุ้มขี้หุ้มเยี่ยว ... นางงามมีที่ไหน
มีตัวมีตนอยู่ สวยยังไงถ้าไม่มีปัญญา

หลวงปู่บุดดา ถาวโร

โสวจัสสตา



การเปิดใจรับคำว่ากล่าวตักเตือนหรือคำวิพากษ์วิจารณ์ 
แม้มิใช่ศีลข้อสำคัญในพระพุทธศาสนา 
แต่ก็เป็นธรรมข้อสำคัญสำหรับการมีชีวิตที่ดีงาม 
ธรรมข้อนี้มีชื่อเรียกว่า “โสวจัสสตา” 
คือความเป็นผู้ว่าง่ายสอนง่าย พร้อมรับฟังคำชี้แนะว่ากล่าว 
จัดเป็น 1 ในนาถกรณธรรม 10 (ธรรมที่ทำให้เป็นที่พึ่งของตนได้) 
และมงคล 38 หากขาดธรรมข้อนี้แล้ว
นอกจากจะทำให้ตนเป็นที่พึ่งของตนได้ยากแล้ว
ชีวิตยังขาดสิ่งที่เป็นมงคลไปอย่างน้อยก็หนึ่งประการ

 พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล

วิหารธรรมของนักปฏิบัติ



การไม่กังวล การไม่ยึดถือ
นั่นแหละคือ วิหารธรรมของนักปฏิบัติ

หลวงปู่ดู ลย์ อตุโล

ทำใจให้ว่างจากอารมณ์ก็พอ



เราเองเป็นผู้ผูกตัวเอง ไม่มีใครจะผูกเราได้
จงพยายามทำใจของเราให้ว่างจากอารมณ์ก็พอ
คำว่าว่าง ก็คือว่างจากบ่วงมารนั้นเอง
คำว่าติด ก็คือติดบ่วงมารนั้นเอง...

หลวงปู่คูณ สิริจันโท