มันก็สูญจากความเป็นตัวตน


พระพุทธเจ้าบอก  “ปัญญา โลกัสมิ ปัชโชโต  
ปัญญาเป็นแสงสว่างในโลก”  
คำว่าแสงสว่างในโลกคือเห็นความจริงของขันธ์ ๕  
รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณนั้น  
ไม่ใช่ของเรา  ไม่ใช่เรา  ไม่ใช่ตัวตนของเรา  
มันเป็นธาตุ  มันมีเหตุเป็นแดนเกิด  
แล้วมันก็ดับไปตามเหตุนั้น  เห็นแจ้งตรงนั้น  
มันจะแสดงเป็นดีก็เป็นธาตุ  
มันแสดงไม่ดีก็เป็นธาตุ  ไม่ใช่ของเราทั้งคู่  
นี่  ถ้าเข้าใจอย่างนี้ชัดแจ้ง  
มันก็จะค่อยๆ จางคลายอุปาทานไปเอง  
โดยไม่ได้มีเราไปจางคลายมัน 
 เมื่อเห็นว่าเป็นธาตุ  
ความเห็นว่าเป็นตัวตนก็ไม่มี  
มันก็สูญจากความเป็นตัวตน
ในความเห็นนั้น  
หัดพินิจพิจารณาบ่อยๆ  หัดวิจัยบ่อยๆ…

พระอาจารย์วิชัย  กัมมสุทโธ

Image by Mylene2401 from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา




 

ทุกสิ่งไม่มีอะไรเลย นอกจาก "ชื่อ"


อะไรคือปัญญาอันสูงสุด
นั่นก็คือการไม่ยึดมั่นกับสิ่งใด
ว่ามีตัวมีตนอยู่อย่างจริงแท้
ไม่ยึดแม้จักรวาล หรือ
สิ่งที่ปรากฏในจักรวาล
อย่างสรรพสัตว์ทั้งหลาย
ที่ยังเวียนว่ายตายเกิดอยู่
โดยบอกว่า
นี่คือสิ่งนี้
นั่นคือสิ่งนั้น
นี่คือศัตรู และ...
.
ทุกสิ่งไม่มีอะไรเลย
นอกจาก "ชื่อ"
ไม่ว่า รูป รส กลิ่น เสียง และสิ่งใดก็ตามที่ปรากฎ
เราต้องรู้ว่า มันเป็นแค่ "ชื่อ" ที่เราตั้งให้เท่านั้น
มันไม่มีอยู่อย่างแท้จริง
.
แม้แต่ "ฉัน" หรือ "ตุลกู ยางทัง" 
ก็เป็นแค่ "ชื่อ” ที่ตั้งขึ้น
"ฉัน" ก็ไม่ใช่ "ตุลกู ยางทัง"
เพราะ "ตุลกู ยางทัง" 
ไม่ได้เป็นอะไรเลย นอกจาก “ชื่อ”
.
เราควรแยกให้ออกระหว่าง
"สิ่งหนึ่งสิ่งใด" กับ "ชื่อที่เราตั้งให้สิ่งนั้น"
การคิดว่า
"สิ่งนั้น" กับ "ชื่อที่เราเรียกมัน"
คือสิ่งเดียวกัน นั้นไม่ถูกต้อง
เราต้องเข้าใจว่า
สิ่งที่ปรากฏอยู่ทั้งหลาย
ไม่ได้มีอยู่จริงตามนัยนี้
เพราะมันไม่ได้เป็นอะไรเลย
นอกจาก "ชื่อ"
ที่เราตั้งให้มัน

ลามะยางทัง รินโปเช

ครูท่านสำคัญท่านหนึ่งของสายสำนักศึกษาธรรมนยิงมา
โดยชาวธิเบตนับถือว่าท่านคือครูผู้เวียนว่ายกลับมาเกิดใหม่
เพื่อสอนและปฏิบัติธรรม
ในปี 1959 เมื่อจีนคอมมิวนิสต์บุกธิเบต ท่านออกจากวัดโดมัง
แต่ถูกจับและถูกขังในคุกจีนถึง 22 ปี ในระหว่างนั้น
ท่านได้สอนธรรมให้แก่นักโทษในคุก เมื่อถูกปล่อยตัวท่านกลับ
ไปวัดโดมัง และพบว่าวัดถูกทำลายแล้ว ท่านจึงเดินทางมายัง
อินเดีย จนมรณภาพ
---------------------
What is the best wisdom? It is not to cling to anything whatsoever to be truly, 
inherently existent. It is to be without clinging to anything, 
including outer container-like universe, and the content-like sentient beings, stating that "This is this…" or "That is that…" or "This is enemy" and so on.
Everything is nothing but name. Isn’t it? Form, sound, smell, and so on, 
we have to know that all these things are nothing but names, and that they do not truly, inherently exist. Also "I" or "Yangthang Tulku", these are nothing but names. I am actually not "Yangthang Tulku", as "Yangthang Tulku" is nothing but a name. 
We should make the distinction between a thing and a name we label on that thing. It is not alright to see the thing and the name as identical. We need to understand that all phenomena do not really exist in this way - as they are nothing but names.

Yangthang Rinpoche

Image by LTapsaH from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา