แค่รู้ทันความโกรธที่เกิดขึ้น ก็เกิดกุศลแล้ว


แค่รู้ทันความโกรธที่เกิดขึ้น 
ก็เกิดกุศลแล้ว 
กุศลตอนนั้นเรียกว่า​ "มีสติรู้ทันจิต".. 
ถ้าเห็นว่าความโกรธนั้นเกิด-ดับ​ 
นี่​มี​ปัญญา​เห็นโกรธ​แสดง​ความ​ไม่​เที่ยง​ให้​ดู
เห็น​ว่าความโกรธเกิดขึ้นเอง 
ไม่ได้อยากให้โกรธ มันโกรธเอง 
นี่มีปัญญาเห็นว่าความโกรธแสดงอนัตตาให้ดู 
รู้ทันความโกรธ ความโกรธดับ 
ความโกรธแสดงอนิจจังให้ดู 
เห็นความโกรธไม่ใช่เรา 
ไอ้ตัวรู้ ก็ไม่ใช่เราด้วย 
คราวนี้กลายเป็นพระโสดาบัน 
มีความเข้าใจแจ่มแจ้ง ขึ้นมาว่า 
ทั้งกาย ทั้งใจนี้ ไม่ใช่เรา 
เรียกว่าทำตามที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอน 
ชำระจิตให้ขาวรอบขึ้นมา 
ขาวรอบเบื้องต้นก็คือ เห็นว่ากายใจนี้ไม่ใช่เรา 
และ​ยังมีงานอีกต่อไปอีก 
คือต้องเห็นด้วยว่า 
ทั้งกายทั้งใจนี้ เป็นทุกข์ 
ไม่ใช่แค่​ "ไม่ใช่เรา" นะ 
มันยังเป็นตัวทุกข์ด้วย

พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล 

Image by Engin_Akyurt from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา




เพียงมีอารมณ์จิตเศร้าหมองหดหู่..


หลักธรรม ๓ ประการอย่าลืม 
จักทำอะไร คิดอะไร พูดอะไรก็แล้วแต่ 
หมั่นทบทวนใคร่ครวญอยู่เสมอว่า 
ผิดไปจากศีล-สมาธิ-ปัญญาหรือไม่ 
ผิดไปจากหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าหรือไม่ 
คือ ละจากความชั่ว ทำแต่ความดี 
มีจิตผ่องใสหรือไม่ 
เพียงมีอารมณ์จิตเศร้าหมองหดหู่ 
ก็จงคิดว่าเราผิดไปจากคำสั่ง
ของพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์แล้ว 
ไม่ควรยังจิตให้เป็นเช่นนั้น 
จงรีบหาทางแก้ไขอารมณ์นั้น
ให้หมดไปจากจิตเป็นการด่วน 
ละเสียจากความเศร้าหมองโดยเร็ว

หลวงปู่ดาบส สุมโน

Image by bobbyartist from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา