ท่านให้ "วาง"


อาการของจิตในส่วนของกุศล
และส่วนอกุศล เป็นสังขารทั้งหมด..
พระพุทธเจ้าท่านให้ละความคิด
ที่เป็นบาป เป็นอกุศล 
แล้วก็ให้ละความคิดที่เป็นบุญ เป็นกุศล
ถ้าไป "ยึดติด" ในกองกุศล 
ในกองบุญ ในความดี 
ก็ยัง "ยึดติด" ใน "กองสังขาร" นั้นอยู่
พระพุทธเจ้าท่าน​ละ​ได้
ทั้งสังขารที่เป็นบาปและสังขารที่เป็นบุญ
อารมณ์ที่เป็นกุศล อารมณ์ที่เป็นอกุศล..
รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
เป็นอาการของจิต
ทั้ง "ผู้รู้" และ "ผู้หลง" 
ล้วนแต่เป็นอาการของจิตทั้งคู่ 
ท่านให้ "วาง"

หลวงปู่แบน ธนากโร

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


ภัยร้ายของชีวิตคือการเอาแต่จับผิดคนอื่น


ภัยร้ายของชีวิตคือการเอาแต่จับผิดคนอื่น 
วิพากษ์วิจารณ์คนอื่นในทางเสียหาย 
สุดท้ายสิ่งไม่ดีเหล่านั้นก็วิ่งกลับมาอยู่ในตัวเรา 
การมองคนอื่นในทางเลวร้ายตลอดเวลา 
เป็นการทำลายพลังจิตของเราเอง 
จริงอยู่บางอย่างเราต้องการแก้ไขเขา 
ต้องการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างให้ดีขึ้น 
เพราะคิดว่าเขามีศักยภาพ 
แต่ก็ต้องค่อยๆ พูดคุยกัน
บางคนคิดว่าตนมีอำนาจ 
จะพูดรุนแรงอย่างไรก็ได้ 
ลูกน้องเป็นเพียงลูกไก่ในกำมือ 
ลงท้ายก็ทำลายน้ำใจ ทำลายมิตรภาพในองค์กร
การคิดดี ทำดี พูดดีต่อตนและคนอื่น
คือการขับเคลื่อนชีวิตด้วยพลังบวก 
ซึ่งเป็นพลานุภาพอันแท้จริงของชีวิต 

พระราชญาณกวี (ท่านปิยโสภณ)
Image by GiselaFotografie from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา