ถ้าใจดี อะไรเกิดขึ้น ก็จบ


จิตเราเป็นพลังงาน 
เมื่อจิตดี มันจะดึงดูดแต่สิ่งดีเข้ามาในชีวิต 
เมื่อใจดี อะไร อะไร ก็ดี 
ลองพิสูจน์ดูได้นะ!
หลายคนบอกว่าฉันก็เป็นนักปฏิบัติ 
ฉันก็ทำบุญ ทำทานตลอด 
มันก็ดีล่ะ น่าอนุโมทนา 
แต่บางทีมันยังไม่ถึง "แก่นใจ" 
ใจมันยังไม่ใส ไม่สว่างเต็มที่ ...
ถ้า ใจดี จริงๆ ต่อให้เราประสบพบเจอ
กับสถานการณ์ เหตุการณ์ แบบไหน 
อย่างไร ก็จบกันไป
ถ้าใจดี อะไรเกิดขึ้น ก็จบนะ! .. 
จบทุกกรณี!!!
เพราะ เมื่อโดนสิ่งใดกระทบ 
เขาไม่ได้สร้างอกุศลใหม่ 
ไม่ก่อกายทุจริต มโนทุจริต วจีทุจริต..

พระอาจารย์นวลจันทร์ กิตติปัญโญ

Image by Briam-Cute from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


 

จริงๆ ไม่มี "เรา"


ไม่มีใครสอนให้พ้นทุกข์ได้ 
นอกจากเห็นความจริงว่า
ทุกข์ที่เกิดขึ้นมานั้น
เราทำตัวเอง 
หรือ 
มีใครทำให้เราทุกข์ 
เพราะความไม่รู้ 
จึงมีเขา มีเรา
มีการกระทำ
หลงไปเป็นเจ้าของ 
จริงๆ ไม่มี
"เรา"

พระอาจารย์ปกรณ์นันทน์ ฐิตธัมโม

Image by Briam-Cute from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


 

เมตตาคู่ปัญญา


เมื่อเราฝึกจิตให้เกิด
ความแจ้งชัดในความจริงที่ว่า
ทุกๆ สิ่งทั้งภายนอกและภายใน
ล้วนว่างเปล่าจากความเป็นตัวตน
อีกสิ่งหนึ่งที่เราจำเป็นอย่างยิ่ง
ที่จะต้องฝึกฝนจิตของเราก็คือ
การฝึกจิตให้เกิดความรักความเมตตาต่อผู้อื่น
เพราะมันจะเป็นพลังอันแก่กล้า
ที่จะสามารถทำลายความเห็นแก่ตัวได้...
ทั้งจิตที่มุ่งสู่ความหลุดพ้นอันสูงสุด
และจิตที่รักและเมตตาปรารถนาช่วยเหลือสรรพสัตว์
สองสิ่งนี้จะเป็นสิ่งที่จะเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน
และจำเป็นที่จะต้องพัฒนาไปพร้อมๆ กัน
อันจะมีผลให้บุคคลนั้น บรรลุสู่เป้าหมายอันสูงสุด
ได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น

พระอาจารย์ชยธมฺโมภิกขุ

Image by DreamyArt from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


 

ความเป็นธรรมดานั่นแหละอัศจรรย์ที่สุด


ธรรมะคือความเป็นธรรมดา 
ความเป็นธรรมดานั่นแหละอัศจรรย์ที่สุด 
พิสดารที่สุด ประเสริฐที่สุด 
เพราะมัน “หยุด” 
หยุดความพิสดาร 
หยุดความเป็นไปของวัฏฏะทั้งปวง !
...ในสายทางเดินไปสู่ความพ้นทุกข์ 
การที่เราเจริญอยู่ในเส้นทาง
ที่เป็นธรรมดานี้ คือวิถีทางที่ปลอดภัยที่สุด !

พระอาจารย์คม อภิวโร
ดูเพิ่มเติมที่ 


Image by DreamyArt from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

ระวังการปรุงของใจเราเองให้ถูกต้อง


จะสุขก็เพราะใจปรุงให้สุข 
จะทุกข์ก็เพราะใจปรุงให้ทุกข์ 
ดังนั้นสิ่งที่ควรระมัดระวังที่สุด 
คือการปรุงของใจคนนั้นแหละ
มิใช่การกระทำของคนอื่น 
คนอื่นจะทำอย่างไร
เราระวังการปรุงของใจเราเองให้ถูกต้อง
แล้วความทุกข์ของเราจะไม่เกิด
เพราะการกระทำของเขาเลย 

สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

การเจริญสติ..การปฏิบัติธรรม


..การเจริญสติ..การปฏิบัติธรรม..
คือการรู้ทันอารมณ์ ความคิด..แบบสดๆ..
ขณะจิตสัมผัสรับรู้ทางอายตนะทั้งหก..
ในทุกสถานการณ์..อย่างฉับพลัน..ผ่านเลย
มิใช่ไปพยายามทำอะไรในที่ไหนๆ
ที่ตั้งใจไปทำกัน..

อาจารย์ปู่ เอกธาตุ

Photo by Martin Sanchez on Unsplash

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

อดทนต่อความปรุงแต่งทั้งหลาย


ท่านว่าความอดทนเป็นตบะอย่างยิ่ง
คือ อดทนต่อความปรุงแต่งทั้งหลาย
ที่จะไม่ไปสำคัญมั่นหมายเป็นตัวตน
มันไม่ใช่ไปกระทำการอดทนแบบกดข่ม
เป็นความอดทนของจิตที่ผ่านการฝึกฝน สติปัญญา
ในการที่จะรู้เท่าทันความปรุงแต่ง ตั้งแต่หยาบถึงละเอียดสุด
ความอดทนนี้ประกอบด้วยปัญญาอยู่อย่างแน่นแฟ้น
เป็นสภาพที่รู้นี้ตื่นตัวเต็มที่....

พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

Photo by didin emelu on Unsplash

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

วัดที่สร้างได้ตลอดเวลา


สิ่งที่ท่านเรียกว่า วัด ...  
เราเรียกว่า"สังฆาราม"
หมายถึง สถานที่ปฏิบัติธรรม ชำระจิต
แต่ใครก็ตาม 
ป้องกันการเข้าไปของกิเลสทั้งสามกอง
และระวังรักษาประตู คือ 
อายตนะของตนให้บริสุทธิ์
ทั้งกายและใจสงบ
และยังสะอาดทั้งภายในและภายนอก
ชื่อว่าเป็นผู้สร้างวัดๆ หนึ่งเลยทีเดียว

ปรมาจารย์ตั๊กม้อ

Photo by Alessio Lin on Unsplash

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


 

ในนิพพาน ไม่มีเรา ที่บรรลุ


ในนิพพาน ไม่มีเรา ที่บรรลุ
ในนิพพาน ไม่มีเรา ทั้งชายหญิง
ในนิพพาน ไม่มีเรา ผู้รู้จริง
นิพพานทิ้ง บัญญัติ ปราศจากเรา
เราไม่เคยนิพพาน

พระอาจารย์มหาวิเชียร ชินวังโส

Image by shell_ghostcage from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


 

ผู้เข้าถึง พระสัทธรรม แท้จริง


ผู้เข้าถึง พระสัทธรรม แท้จริง
ไม่ใช่ผู้ที่ต้องหลีกเร้น 
ปลีกวิเวกอยู่เพียงลำพัง
แต่เป็นผู้มี "ใ จ เ ป็ น อิ ส ร ะ" 
อยู่กับบุคคลธรรมดาทั่วไป
อยู่กับความวุ่นวายของโลกปุถุชน 
ได้อย่างปกติสุข...

หลวงปู่ชา สุภัทโท

Photo by sam su on Unsplash

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


 

ความเข้มแข็งที่แท้จริง


ความเข้มแข็งที่แท้จริง
ไม่ใช่ความสามารถในการทนได้
แต่เป็นความสามารถยอมรับตามจริง
ว่าโลกไม่เที่ยง
เพราะเมื่อรับมือได้
โลกก็ทำให้ใจหวั่นไหวไม่ได้ ด้วยเหตุดีร้ายใดๆ
ความสามารถที่จะเห็นทุกข์เป็นของไม่เที่ยง
คือความสามารถจะเป็นสุขได้
ในท่ามกลางกองทุกข์ อันใหญ่หลวง

ดังตฤณ

Image by Daniel_Nebreda from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

เพ่งอยู่กับสิ่งที่เราพอใจ


ชีวิตที่เหมือนสมหวังน้อย 
ผิดหวังเยอะ ทุกข์มากกว่าควร 
อาจเพราะเราเลือกที่จะ
เพ่งอยู่กับสิ่งที่เราพอใจ 
และมุ่งที่จะต่อต้านสิ่งที่เราไม่ชอบใจ ... 
เราลืมมองหาป ร ะ โ ย ช น์
ในสิ่งที่เรา ไ ม่ ช อ บ 
และศึกษา โ ท ษ
ของสิ่งที่ ช อ บ

การเดินทาง แห่งจิตวิญญาณ

Photo by Anton Darius on Unsplash

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

ถ้าเห็นเป็นของว่าง ใจมันปล่อยทันที


..เราไปว่าของเกิดมาตาย
เป็นคน เป็นสัตว์ เป็นชาย เป็นหญิง 
เขาไม่ได้เป็นอะไร 
สิ่งใดเกิด สิ่งนั้นตายทั้งนั้น 
เราว่าสิ่งนั้นเป็นของเรา 
สิ่งนั้นมันแก่ไหม 
สิ่งนั้นมันตายไหม 
ให้มันรู้ความจริงในสิ่งที่มาสัมผัส 
สิ่งใดที่มาสัมผัส
สิ่งนั้นเกิดมาตายทั้งนั้น 
สิ่งที่มาสัมผัสทางหู ทางตา 
ของเกิดมาตายทั้งนั้น 
เห็นเป็นของว่างไปหมด 
ว่างจากจิตจากใจ 
ถ้าเป็นตัวเป็นตน 
ก็เป็นจากจิตจากใจนี้ มันยึดไว้ 
ถ้าเห็นเป็นของว่าง 
ใจมันปล่อยทันที

หลวงปู่แบน ธนากโร

Photo by Leigh Cooper on Unsplash

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


 

รู้แล้วก็ให้ปล่อยวาง สละคืนให้หมด


เมื่อประสบอารมณ์ดีหรือชั่ว
ก็ต้องรู้จักใช้ความรู้พิจารณา
ชั่วก็คือดี ดีก็คือชั่วอันเดียวกัน
รู้แล้วก็ให้ปล่อยวาง สละคืนให้หมด
เป็นมหาปริจจาโค
ปฏินิสสัคโค ปล่อยไปตามสภาพของมัน
มุตฺติ อนาลโย ปัดทิ้งไปเลย
ข้อสำคัญอย่านำอาหารที่เป็นพิษ
ไปให้ดวงจิตบริโภค
เพราะจะทำให้ใจเศร้าหมองเป็นทุกข์

ท่านพ่อลี ธัมมธโร

Image by enriquelopezgarre from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


 

ยังห่างไกลจากธรรมอยู่อีกมาก


แม้เธอจะศึกษาเรียนรู้ธรรมะ..
..อ่านหนังสือธรรมะกี่ร้อยเล่ม..
ฟังธรรมจากพระอริยเจ้ามากมายเพียงใด
แต่เพียงอารมณ์หยาบๆ น้อยนิดในจิต
..เธอยังรู้ไม่เท่าทัน..
..ก็นับว่ายังห่างไกลจากธรรมอยู่อีกมาก..

อาจารย์ปู่ เอกธาตุ

Photo by Ian on Unsplash

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


 

การปฎิบัติที่มีหลักแต่เพียงว่า...


การปฎิบัติที่มีหลักแต่เพียงว่า 
ไม่ให้ "ตัวตน ของตน" 
เกิดขึ้นเท่านั้น 
ก็เป็นปฎิบัติในปฎิจจสมุปบาท
ฝ่ายดับตลอดสาย 
และเป็นอริยมรรคมีองค์ ๘ 
อย่างครบถ้วนรวมอยู่ในนั้นเสร็จ 
เพราะอำนาจของ"สัมมาทิฎฐิ"
ที่ทำให้ความรู้สึกว่าเป็น ตัวตน ของตน 
เกิดขึ้นไม่ได้นั่นเอง 
ซึ่งจะเป็น "ศีล สมาธิ ปัญญา" 
คือการปฎิบัติทั้งสิ้นในพระพุทธศาสนา 
และยิ่งไปกว่านั้นอีกในความดับไป
แห่ง ตัวตน ของตน นั้นเอง 
ย่อมมี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ 
หรือ มรรคผลนิพพาน ซึ่งเป็นผล
ของการปฎิบัติรวมอยู่ใน....นั้นแล้วอย่างครบถ้วน 

ท่านพุทธทาสภิกขุ

Image by Lolame from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

วิธีจัดการที่ถูกคือ "รู้เท่าทัน"


เ ร า เ ห็ น เ จ้ า แ ล้ ว “ม า ร”
อุบายยอดเยี่ยม คอยจัดการความคิด
……………………………………
เมื่อเราเห็นสิ่งไม่ดีในจิตใจ
ก็มักจะพยายามผลักไสไล่ส่ง
นั่นคือ การสำคัญมั่นหมาย
การให้ความสำคัญกับสิ่งนั้น

วิธีจัดการที่ถูกคือ "รู้เท่าทัน"
แบบไม่ยินดียินร้าย

สักแต่ว่ารับรู้ ว่านี่คือความคิด นี่คือความจำ
เท่านั้นเอง...ไม่ต้องทำอะไรมาก

ในพระไตรปิฎก..มารจะแปลงตัวมา
เป็นพราหมณ์ เป็นนั่น เป็นนี่ มาหลอกพระพุทธเจ้า
พระพุทธองค์ท่านจัดการอย่างไร
ท่านบอก..."เราเห็นเจ้าแล้วมาร"

เป็นหลักปฏิบัติว่า...
เมื่อมีกิเลส แปลงตัวเป็นนั่นเป็นนี่ มาก่อกวน
มาสร้างความเดือดร้อนในชีวิต
เราไม่ต้องไปสู้กับมัน

แค่รู้ แล้วบอกว่า..."เราเห็นเจ้าแล้วมาร"

เราเห็นเจ้าแล้ว ความจำ
เราเห็นเจ้าแล้ว ความคิด
เราเห็นเจ้าแล้ว ความน้อยใจ
เราเห็นเจ้าแล้ว ความสงสารตัวเอง
ฯลฯ

สักแต่ว่าเห็น เท่านั้นก็พอ

แต่ไม่ใช่ว่า มันจะหายทันทีครั้งแรก
แต่ถ้าเราฝึกอย่างนี้บ่อยๆ
พอมีความคิดเก่าๆ ผุดขึ้นมา
เราไม่ได้ยึดมั่นว่า เป็นเรา เป็นของเรา
เราไม่ได้ถือกรรมสิทธิ์ หรือ identify กับสิ่งนั้น

สักแต่ว่า เป็นอาการของจิต
สักแต่ว่า เป็นอาการของสมอง
แล้วแต่จะเรียก...อย่างนี้มันสบาย

พระอาจารย์ชยสาโรภิกขุ

Image by Pexels from pixabay
ที่มา Fb.Achara Klinsuwan

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา




 

" ฉั น " ไม่มีอยู่จริงๆ


เรื่องของปัญญานั้น
มันไม่ได้หยุดอยู่ตรงที่คำว่า
" ฉั น รู้ " แต่มันจะหยุด...
ตรงที่พ้นไปจากคำพูดทั้งปวง
ตรงที่รู้ว่า " ฉั น " ไม่มีอยู่จริงๆ

พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

Image by mostafa_meraji from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

อย่าพยายามที่จะเอาอะไรๆ ในการปฏิบัติ


อย่าพยายามที่จะเอาอะไรๆ ในการปฏิบัติ
ความอยากอย่างแรงกล้า
ที่จะหลุดพ้นหรือรู้แจ้งนั้น
จะเป็นความอยากที่ขวางกั้นท่านจากการหลุดพ้น..
ปัญญาจะไม่เกิดขึ้นจากความอยากนั้น
ดังนั้น จงเพียงแต่ละความอยากเสีย
จงเฝ้าดูจิตและกายอย่างมีสติ
แต่อย่ามุ่งหวังที่จะบรรลุถึงอะไร
อย่ายึดมั่นในเรื่องการฝึกปฎิบัติหรือในการรู้แจ้ง

หลวงปู่ชา สุภัทโท

Image by No-longer-here from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

อยู่ที่ว่าเรามีปฏิกิริยาอย่างไร


สุขหรือทุกข์ไม่ได้อยู่ที่ว่า
มีอะไรเกิดขึ้นกับเรา 
แต่อยู่ที่ว่าเรามีปฏิกิริยาอย่างไรต่อสิ่งนั้น 
เริ่มตั้งแต่มองมันอย่างไร 
รู้สึกกับมันอย่างไร 
ไปจนถึงทำอย่างไรกับมัน 
แม้ถูกต่อว่าด่าทอ 
แต่หากมองว่ามัน
เป็นสิ่งสอนใจให้อดทน 
ฝึกสติ ช่วยลดอัตตา 
หรือเห็นว่าเป็นธรรมดาโลก 
เมื่อได้ยินแล้วก็ไม่ใส่ใจ 
เพราะไม่ใช่ความจริง 
ปล่อยวางมันเสีย 
ความทุกข์ใจก็เกิดขึ้นได้ยาก

พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล

Photo by Sara Groblechner on Unsplash

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

เพราะเราไม่มี จิตผู้ดู


คนเราที่มีปัญหาความทุกข์มาก
เพราะอะไร เพราะความคิดนี้ เห็นไหม
ความคิดทำให้จิตเป็นทุกข์
เพราะเราไม่มี จิตผู้ดู
ที่จะไปเห็น จิตผู้คิด
เวลาเกิดความคิดขึ้นมา
ไม่เห็น ไม่รู้ ไม่เข้าใจ
เราก็เข้าไปอยู่กับความคิดเลย
แล้วก็ว่านี่เราเป็นผู้คิด ความคิดคือเรา
กิเลสทั้งหลาย ความโลภ ความโกรธ
ความหลง ความพอใจ ความไม่พอใจ
ความอิจฉาริษยา ความหวาดระแวง
ความวิตกกังวล ความกลัว
ความน้อยเนื้อต่ำใจ
สารพัดมาจากความคิดทั้งนั้น

อ.กำพล ทองบุญนุ่ม

Image by 95C from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

นี่แหละคืออวิชชา​ ที่แท้จริง


ถ้าตราบใดยังแยกความคิดแบบ
ตั้งใจคิด​ กับ​ หลงคิด​ เผลอคิด
หรือความคิดที่มันคิดขึ้นเอง​ ไม่เป็น
อย่าหวังว่าจะเข้าใจเรื่องวิปัสสนา​ 
เพราะตัวคิดที่มันคิดเองนั้น
คือการทำงานของขันธ์​ 5​ 
ถ้าไม่รู้ทันและไม่เข้าใจ
กลไกการทำงานนี้
ก็จะหลงไปกับความคิดเหล่านี้​ 
หลงติดยึดมั่นเอาจริงเอาจัง
กับเรื่องราวเหล่านั้น​ 
ที่สำคัญคือเป็นทุกข์ อุปาทานเพราะไม่รู้ทัน​
นี่แหละคืออวิชชา​ ที่แท้จริง

พระอาจารย์ครรชิต อกิญจโน

Image by 95C from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

ตัณหาย่อมดับไป


ตัณหา จะเกิด ก็ด้วยความไม่รู้
ความจริงในขันธ์ห้า
..ปล่อยอุปาทานขันธ์แล้ว
ตัณหาย่อมดับไป 
เพราะไม่มีที่อาศัย 
เปรียบเหมือนหนองน้ำที่แห้งลงเป็นลำดับ
จนแห้งสนิท..ปลาย่อมอาศัยอยู่ไม่ได้

พระอาจารย์บัณฑิต สุปัณฑิโต

Photo by Ravi N Jha on Unsplash

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

นี่เรียกว่าอันธพาล


พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า
“บุคคลอ่อนแอ ผู้เป็นอันธพาล
มักสำคัญว่าลูกของเรา
เมียของเรา สามีของเรา
ทรัพย์สมบัติของเรา”
นี่เรียกว่าอันธพาล
คนทั้งหลายสำคัญมั่นหมาย
สิ่งที่ไม่ใช่ของตัวว่าเป็นของตัว
เพราะแม้กระทั่ง "ตัวของตัวเอง" ก็ยังไม่ใช่เลย
คนอื่นจะมีได้อย่างไร

หลวงพ่อมหาดิเรก พุทธยานันโท

Image by Pexels from pixabay

***********************************

หมายเหตุ : “อันธพาล” ในภาษาไทยมักใช้ในความหมายว่า คนชั่วร้าย, คนเกเร พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกความหมายไว้สั้นๆ ว่า “คนเกะกะระราน”
.
แต่ “อนฺธพาล” ในภาษาบาลีหมายถึงคนคิดผิด คือไม่รู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก ไม่มีความสามารถที่จะคิดและที่จะกระทำให้ถูกต้องได้
.
คนเรานั้นเกี่ยวข้องกันตามวาระกรรม หากสิ้นภพชาตินี้ ต่อไป ก็จะไปเป็นบุตร ธิดา สามี ภรรยา ฯลฯ ของคนอื่นต่อไป ดังนั้น จึงไม่มีใครที่เป็นอะไรกับใครจริงๆ ทุกความสัมพันธ์ก็แค่ชั่วคราว หากเข้าใจได้ดังนี้ ก็จะลดความรู้สึกเป็นเจ้าข้าวเจ้าของในกันและกัน ลดความคาดหวังในกันและกัน และที่สุดก็ลดความทุกข์ ไปจนถึงสิ้นทุกข์เพราะ "ผูกพัน" ลงได้


ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


 

เหมือนม้าที่สารถีควบคุมได้


ยสฺสินฺทริยานิ สมถงฺคตานิ
อสฺสา ยถา สารถินา สุทนฺตา
ปหีนมานสฺส อนาสวสฺส
เทวาปิ ตสฺส ปิหยนฺติ ตาทิโน

ท่านผู้ใดควบคุมอินทรีย์คือ 
ตา, หู, จมูก, ลิ้น, กาย, ใจ ได้ 
เหมือนม้าที่สารถีควบคุมได้อย่างดี 
ท่านผู้นี้หมดความไว้ตัว หมดกิเลส มั่นคง 
ย่อมเป็นที่โปรดปราน แม้กระทั่งของเทวดาทั้งหลาย 

He whose senses are subdued, 
Like steeds well-trained by a charioteer; 
He who is free from pride and corruption- 
Such a steadfast one even the gods hold dear. 

พุทธพจน์

Image by jplenio from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

"ความคิด"..มีราคาที่ต้องจ่าย


"ความคิด"..มีราคาที่ต้องจ่าย..
..หากรู้ไม่เท่าทัน..เธอจะขาดทุนอยู่เสมอ..
..หากใช้มันเป็น..เธอจะได้กำไรมหาศาล..

อาจารย์ปู่ เอกธาตุ

Photo by Nick Fewings on Unsplash

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


 

เหยื่อที่ล่อให้ติดกับดักความทุกข์


เหยื่อที่ล่อให้ติดกับดักความทุกข์

รูป เสียง กลิ่น รส และสิ่งสัมผัส 
อันยั่วยวนใจนั่นแหละ
พระพุทธองค์ตรัสเรียกว่า 
“โลกามิส - เหยื่อของโลก” 
ผู้ไม่กำหนดรู้โทษของเหยื่อเหล่านี้ 
เข้าไปเกี่ยวข้องอย่างตะกละตะกลามลุ่มหลง
ผูกพันย่อมถูกเบ็ด คือ ความทุกข์
เกี่ยวเอาจนไม่อาจดิ้นให้หลุด
เพื่ออิสรภาพของตนได้ 
ต่อแต่นั้นก็หยั่งลงสู่ทุกข์ (ทุกฺโขติณฺณา) 
มีทุกข์ดักอยู่เบื้องหน้า (ทุกฺขปเรตา) 
คร่ำครวญอยู่ว่าทำอย่างไรหนอ
เราจักพ้นทุกข์นี้ได้
ผู้สละโลก คือท่านผู้สละเหยื่อของโลก 
ไม่ติดเหยื่อของโลก
เป็นผู้อันโลกจะครอบงำย่ำยีมิได้ 
ย่อมเที่ยวไปในโลกได้อย่างเสรี
เหมือนเนื้อที่ไม่ติดบ่วงของพรานไพร.... 

อ.วศิน อินทสระ

Image by Lee_seonghak from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา