ธรรมชาติของเรา จะเผยตัวออกมาเอง


...แต่เมื่อเราวิปัสสนา 
เราเริ่มสำรวจความรู้สึกของ “ความเป็นฉัน” 
“ความเป็นตัวฉัน” และ “ความเป็นของฉัน” 
ในที่สุดเราก็ตระหนักได้ว่า 
ความรู้สึกนี้เป็นแค่สิ่งที่ไม่จีรังยั่งยืน 
มันเกิดขึ้นแล้วก็จางหายไป 
เช่นเดียวกับทุกสิ่งในธรรมชาติ 
เมื่อวิปัสสนาของเราก้าวหน้าขึ้น 
เราก็เริ่มเห็นเปลือกชั้นแล้วชั้นเล่า
ของสิ่งที่เราคิดว่าเป็นตัวเรา 
บรรดาความทรงจำ ความคิด อารมณ์ 
ความรู้สึก ความเห็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นมา
แล้วเราเคยหลงเข้าใจไปว่าเป็นตัวเรา 
เราจะพบว่า ความทรงจำ ความคิด 
อารมณ์ ความรู้สึก ความเห็นต่างๆ เหล่านี้
ไม่ใช่ตัวเราหรือสิ่งที่ตัวเราเป็นเลย…
.
การที่เรารู้ว่าเราเป็นอะไรไม่ใช่ประเด็น
.
ตลอด 45 ปี ที่พระพุทธองค์ทรงเผยแผ่
หลักธรรมหลังจากที่ตรัสรู้ 
พระองค์ทรงแน่วแน่ที่จะไม่กำหนดความเห็น
ว่าตัวเราคืออะไร แต่พระองค์ทรงสอนไว้
อย่างชัดเจนมากว่าสิ่งใดที่ไม่ใช่ตัวเรา 
เราไม่ใช่ความคิดของเรา ร่างกายของเรา 
ความเห็นของเรา อารมณ์ของเรา 
ความสำเร็จของเรา หรือความบกพร่องของเรา 
ปัญหาของเรา 
คำถามที่เกิดขึ้นตามมาโดยธรรมชาติคือ 
แล้วตัวเราคืออะไร ตัวตนของเราคืออะไร 
พระพุทธองค์ทรงย้ำหลายครั้งว่า 
นี่เป็นคำถามที่ผิด แทนที่จะเฝ้าหาความหมาย
ว่าตัวเราเป็นอะไร เราต้องเรียนรู้
ที่จะปล่อยวางสิ่งที่เราไม่ได้เป็น 
แล้วความเป็นจริงตามธรรมชาติของเรา
จะเผยตัวออกมาเอง

พระอาจารย์สุเมโธ

Image by BenjiTran from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

เราไม่เคย “เห็นจริง”




เราไม่เคย “เห็นจริง”
เพราะเรามีความเห็น
เกี่ยวกับสิ่งที่เราเห็น

ท่านกฤษณะมูรติ

We never see because we have opinions 
about what we see.

J. Krishnamurti

Image by aiilolo from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา