ความคิดมิใช่ตัวเรา มิใช่ของเรา
ดังนั้น เราควรใช้สติปัญญามากกว่าการเชื่อความคิด
/////////////
ต่อให้เป็นศัตรูตัวฉกาจ
ก็ไม่มีทางทำร้ายคุณได้บ่อยๆ
มีแต่ความคิดในหัวตัวเองเท่านั้น
ที่ทำร้ายคุณได้ทุกนาที
.
คุณต้องพูดและทำอะไร
ที่เข้าท่ามากมายหลายปี
กว่าจะประสบความสำเร็จ
แต่เพื่อความล้มเหลวในชีวิต
แค่คิดไม่เข้าท่าวันเดียวก็พอแล้ว
.
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตคือความคิด
เพราะความคิด
อาจพังโลกได้ก่อนโลกพัง
และพาเราเข้าถึงความมืด
ได้ก่อนความมืดจะมาถึง
.
อยู่ในที่มืดมิด
ไม่น่ากลัวเท่าอยู่กับความคิดที่มืดมน
คนส่วนใหญ่ใช้เวลาในชีวิต
ครุ่นคิดถึงเรื่องน่าเจ็บใจ
มากกว่าเรื่องน่าสบายใจ
แค่นี้ก็เพียงพอจะเป็นเหตุ
ให้ตายอย่างไม่สบายใจแล้ว
.. .. .. .. .. .. .. .. ..
เรื่องใดรบกวนจิตใจได้
คุณไม่มีทางตั้งใจสลัดทิ้งให้ขาด
แต่อาจเฝ้าสังเกตว่า
มันรบกวนจิตใจน้อยลงเรื่อยๆ
เมื่อคุณไม่สู้และไม่เล่นกับมัน
.
ความคิดที่ดีที่สุดของมนุษย์
คือความคิดที่ชักนำใจ
ให้มารู้ มาดู
ความไม่เที่ยง ไม่ทน ไม่ใช่ตัวตนของกายใจได้
.
วิธีกำจัดความคิดร้ายๆ
ไม่มีอะไรดีไปกว่า
ตามรู้จนยอมรับได้จริงๆ ว่า
มันมาเอง คุณไม่ได้เชิญ
และมันไม่ใช่คุณ
.. .. .. .. .. .. .. .. ..
เวลาฝึกเห็นความคิดร้ายๆ
อย่าฝึกด้วยการคาดหวังว่า
มันจะหายไปหรือไม่เกิดอีก
ฝึกด้วยการยอมรับว่า
เรากำหนดไม่ได้ว่าจะมาจะไปกี่พันครั้ง
.
ตอนที่พยายามเปลี่ยนความคิด
แล้วมันไม่ยอมเปลี่ยนตามที่เราต้องการนี่แหละครับ
เป็นโอกาสทองที่เราจะเห็นความจริง
อันเป็นหนึ่งในแก่นความรู้ทางพุทธศาสนา
นั่นคือ ความคิดไม่ใช่ของเรา
ความคิดไม่ใช่สิ่งที่บังคับบัญชาได้ตามปรารถนา
ความคิดเป็นเพียงสิ่งแปลกปลอมจรมารบกวนจิตใจชั่วคราว
.
หรือสรุปย่นย่อ คือ
ความคิดเป็นอนัตตา
ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวเรา
ไม่มีเราในความคิด!
ดังตฤณ
Image by tixonov_valentin from pixabay
ที่มา : เพจมนษิธาร Monsitharn
(บ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา เดิม)