ไม่มี...สิ่งใดควรค่าแก่การ...ยึดไว้เลย


ในสภาวะ...
ของธรรมชาติ ที่เป็นเช่นนั้นเอง
จิต  ของเรา
ต้องไม่ถูก สิ่งที่ปรากฏ 
อยู่...ภายนอกรบกวน
ต้องไม่ยึดสิ่งใด ไว้ภายใน
เรา...ต้องทำให้จิต อยู่...ในสภาวะ 
ที่ตระหนักรู้ว่า... 
ไม่มี...สิ่งใดควรค่าแก่การ...ยึดไว้เลย

ลามะยางทัง  รินโปเช

Image by Tama66 from pixabay

เพจวัดพระธาตุขุนบง

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

https://www.facebook.com/Jaturataweep/




 

จะไปเสียเวลาดับทำไมให้ต้องเหนื่อย


สุขทุกข์ก็มีด้วยกันทุกรูปทุกนาม 
แต่ทุกๆ ชีวิตอยากจะแก้ไขความจริง 
เวลามีทุกข์มาก็วิ่งหนี 
เวลามีสุขมา วิ่งหาและยึดไว้ 
ทั้งๆ ที่ไม่รู้ความจริงว่าสุขกับทุกข์
ก็เหมือนกลางวัน กลางคืน 
แค่อยู่เฉยๆ เดี๋ยวก็มืดแล้ว
อยู่เฉยๆ เดี๋ยวก็สว่าง 
สุขและทุกข์ที่เกิดขึ้นในใจก็เช่นกัน
รู้ซื่อๆ รู้อยู่เฉยๆ เดี๋ยวอาการนั่นก็ดับลงเอง 
จะไปเสียเวลาดับทำไมให้ต้องเหนื่อย 
นั่นคือหมดภาระหมดหน้าที่ไม่ต้องทำอะไร 
แค่รู้ซื่อๆ รู้ตรงๆ ไปกับอาการนั้น
รู้จะตกงานไปเอง เพราะรู้ไม่ต้องทำอะไร 
ให้รู้นั้นรู้ไปเลย ไม่ต้องจำไว้ 
ไม่ต้องคิดไว้ว่าจะรู้ เหมือนที่เคยบอกว่า
การปฏิบัติ ถ้าเราใช้สติ หรือฝึกสติ 
ฝึกสมาธิ เดินจงกรม ก็ต้องมีผู้กระทำ 
แต่วิปัสสนาแบบฝึกรู้นั้น ไม่ต้องทำอะไร 
จึงสบาย แค่รู้อย่างเดียว เพียงแค่รู้ 
เพียงแค่รู้อาการกาย รู้อาการใจทำงาน...

พระอาจารย์ชานนท์ ชยนนฺโท

หนังสือเพราะเห็นผิด จึงผิดธรรม
เมื่อเห็นถูก จึงถูกธรรม

Image by Tama66 from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

https://www.facebook.com/Jaturataweep/