ให้..เข้าใจความว่าง แต่..อย่าหลงความว่าง


ให้..เข้าใจความว่าง
แต่..อย่าหลงความว่าง
ไม่..ยึดมั่น ใจจึงว่างเองๆ
ให้แค่เข้าใจกายและจิตนี้
แต่อย่าหลงเป็นเจ้าของ
โลกและธรรม คือ สิ่งเดียวกัน
. . ที่ไร้ใจแบ่งแยก . .
สุดท้ายทุกคนก็ต้อง
คืนสู่ธาตุต่างๆแน่นอน 
ในขณะการเป็นมนุษย์นี้
...ก็มีนาทีทอง .."
ในการเห็นสิ่งเหล่านี้
ว่าสัจธรรมไม่มีอะไรมากเลย
เพียงยอมรับธรรมชาติมากเท่าไหร่
ตัวตนก็จะน้อยลง ตัวยิ่งเล็กลง
ยิ่งนอบน้อมต่อธรรมชาติ
หรือ ตัวตนมาก
เราก็เป็นศูนย์กลางโลกจักรวาล 
ความอหังการ ทิฐิ ความเป็นกูรู
กูรู้ก็เยอะตามมา สิ่งที่รู้นั้น
พาปรุงแต่งสร้างภพชาติ
. . โดยไม่รู้ตัว . .
กรงขัง 
คือ ความคิดท่านเอง
จุดเริ่มต้น และ ปลายทาง
เมื่อโยมตื่น . .
จะรู้ว่าใคร กำลังเห็น และ กำลังคิด

พระอาจารย์ปกรณ์นันทน์ ฐิตธัมโม

Image by Syaibatulhamdi from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

ความคิดนั้นเป็นพลังทำให้เกิดสมาธิ


สภาพปกติของทะเลคือการมีคลื่นลม
มีบ้างไม่มีบ้าง คลื่นใหญ่บ้างเล็กบ้าง 
สภาพปกติของชีวิตจิตใจก็เหมือนกัน 
ต้องมีความคิดนึกผ่านเข้ามา 
.
ถ้าเราคิดว่าสภาพปกติคือการนั่งไม่คิดอะไรเลย 
นั่นเป็นการเข้าใจผิด 
ดังนั้น ให้รู้สึกตัว
ดูเข้าไปในใจตัวเอง อย่าเข้าไปในความคิด 
อย่ามุ่งที่จะหยุดยั้งความคิด 
เมื่อเผลอเข้าไปในความคิด
แล้วก็กลับมารู้สึกตัวอีก 
อย่ามุ่งจะหยุดความคิด
.
ความคิดนั้นเป็นพลังทำให้เกิดสมาธิ คือ 
เมื่อเรารู้ตัวก็เป็นการทวนกระแสความคิด 
ก่อเกิดพลังสมาธิขึ้นตามธรรมชาติ 
กลับมารู้สึกตัว ทำอยู่อย่างนี้ 
เรียกเจริญสติภาวนาเพื่อการรู้แจ้งรู้จริง
ต่อตัวเองและสิ่งที่เกี่ยวกับตัวเอง 
.
๐ ทำเช่นนี้สังเกตเช่นนี้มากเข้า 
นานเข้าความรู้สึกตัวก็นำหน้า 
ความคิดก็ถอยร่นมาอยู่ข้างหลัง 
เมื่อความคิดเข้ามาก็รู้สึกตัว ตื่นตัว 
กล้าทักทายความคิดทุกรูปแบบ 
ไม่หวั่นไหวไปกับความคิด 
เพราะความรู้สึกมีกำลังเหนื่อกว่า 
จากความรู้สึกอันนั้น
เราจะเรียน รู้ชีวิตและที่สุดของมัน 
———-
ท่านเขมานันทะ
ช่วงชีวิต ช่วงภาวนา พิมพ์ครั้งที่2 ปกอ่อน หน้า 85-86

Image by Syaibatulhamdi from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา