ต้องรู้สึกตัว..



ต้องรู้สึกตัว อย่างตัวนั่งอยู่นี้ นั่งสบายไหม 
ต้องข่มจิตไว้ ให้รู้จักทั้งทุกข์ และทั้งสุข 
ต้องประคองดู ไม่ให้มันเสื่อม ไม่ให้มันเบื่อ
พอประคับประคองมัน ก็ค่อยสบายไป 
เป็นปีติ บางทีน้ำตาไหล บางทีสั่นสะเทือน 
บางทีเหมือนกับขนลุกขนพอง เราก็เฉยอยู่ไม่สนใจ
ให้ระลึกว่า มีเกิดขึ้นมีดับไป ไม่ยั่งยืน มันก็หายไป 
ตัวอื่นมาอีก เราก็ดูไปอย่างนั้น ดูจนหมดฤทธิ์ 
ไม่ปรุงแต่ง จิตมันจึงไปนิ่งนอนอยู่ที่พัก
อายตนะมันไปรับอารมณ์ภายนอก ภายใน มาใส่จิต 
ให้มีความกระตือรือร้น ให้มีความอยาก ความโลภ 
เมื่อฝึกจนชำนาญมาก จึงปราบกิเลสลงได้ ฆ่าได้ 

หลวงปู่คำพอง ขันติโก

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

เราฝึกใจเพื่อยอมรับความจริงของความทุกข์



จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

ผู้ที่ถึงความวิเศษแล้ว



คนที่รู้ว่าตัวดี คนนั้นยังไม่ถึงความวิเศษ 
คนใดเห็นว่า ไม่ว่าอะไรทั้งหมดในโลกนี้ เทวโลก พรหมโลก 
ไม่มีอะไรดีอะไรวิเศษ 
สิ้นความรักความพอใจทุกสิ่งทุกอย่าง 
ยอมรับนับถือกฎธรรมดา 
ผู้นั้นแหละถึงดี ถึงความวิเศษแล้ว

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ


ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

เราเป็นคนดีอยู่แล้ว.. ทำไมต้องฝึกจิตด้วย



เราเป็นคนดีอยู่แล้ว.. ทำไมต้องฝึกจิตด้วย  จะช่วยอะไรได้ ?

พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ว่า.. ให้ละชั่ว ทำดี ทำจิตให้ผ่องใส 
คือ เมื่อทำความดีแล้ว ต้องอยู่เหนือความดีนั้นด้วย  
เพราะคนดีโดยส่วนมาก เมื่อทำความดีแล้ว 
ยังมีความกังวลที่ต้องการให้คนเห็นความดีที่ทำ ให้คนเข้าใจ  
ถ้าคนไม่เข้าใจ หรือเข้าใจผิด ก็จะน้อยใจ เสียใจได้ง่าย...
 เปราะบางง่าย คิดว่า เราอุตส่าห์ทำความดี ทำไมไม่เข้าใจ 
ก็เลยไม่อยากจะทำความดี และอาจจะเลยเถิด  
ถึงกับไม่อยากเป็นคนดีอีกก็มี...

พระอาจารย์ธัมมทีโป

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา