ต้องรู้สึกตัว อย่างตัวนั่งอยู่นี้ นั่งสบายไหม
ต้องข่มจิตไว้ ให้รู้จักทั้งทุกข์ และทั้งสุข
ต้องประคองดู ไม่ให้มันเสื่อม ไม่ให้มันเบื่อ
พอประคับประคองมัน ก็ค่อยสบายไป
เป็นปีติ บางทีน้ำตาไหล บางทีสั่นสะเทือน
บางทีเหมือนกับขนลุกขนพอง เราก็เฉยอยู่ไม่สนใจ
ให้ระลึกว่า มีเกิดขึ้นมีดับไป ไม่ยั่งยืน มันก็หายไป
ตัวอื่นมาอีก เราก็ดูไปอย่างนั้น ดูจนหมดฤทธิ์
ไม่ปรุงแต่ง จิตมันจึงไปนิ่งนอนอยู่ที่พัก
อายตนะมันไปรับอารมณ์ภายนอก ภายใน มาใส่จิต
ให้มีความกระตือรือร้น ให้มีความอยาก ความโลภ
เมื่อฝึกจนชำนาญมาก จึงปราบกิเลสลงได้ ฆ่าได้
หลวงปู่คำพอง ขันติโก
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา