วัดเป็นเพียงที่พักแก่ภิกษุ ภิกษุคือผู้เห็นภัยในสังสารวัฏ
เป็นการเห็นภัยของการเวียนว่ายตายเกิด ซึ่งเต็มไปด้วยทุกข์
.
พุทธะ ไม่ได้อยู่ที่วัด และไม่ได้อยู่ที่พระพุทธรูป
ต่อให้สร้างใหญ่โต สวยงาม ยิ่งใหญ่
ยิ่งไกลห่างสัจธรรม
.
เพราะจะไปดูแต่ความสวยงาม ใหญ่โต แต่ก็ไม่ได้อะไรเลย
ยิ่งสร้างกิเลสตัณหา ทั้งพระและโยม
.
จะสร้างวัดให้สวยงามใหญ่โตแข่งกัน
อยากได้บุญ วาสนาบารมี ได้ยอดกฐินมากกว่ากัน
ทำ ทำบุญกัน แต่ก็ไม่ได้บุญ กลับได้บาปแทน
.
พุทธะ สอนให้เหนือจากบุญและบาป
ทั้งบุญและบาป ก็มาจากเราปรุงแต่งขึ้น
พยายามทำบุญติดแค่บุญ
ก็ติดอยู่แค่ 31 ภพภูมิ
แต่สิ่งที่เหนือกว่านั้น ไม่มีใครรู้หรือสนใจเลย
.
บางทีบุญ วาสนา บารมี ความสวยงาม ก็เป็นสิ่งที่ดี
แต่ก็ขวางกั้นความหลุดพ้นหรือนิพพาน
บางทีเราสร้างสมมุติหรือหลงสมมุติว่าจริง
สิ่งเหล่านี้จึงบังสัจธรรม
สมมุติ บัง นิพพาน
..........................
"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าแม้ว่าภิกษุจับชายสังฆาฏิตามหลัง ย่างเท้าตามทุกก้าว ภิกษุนั้น ก็ยังอยู่ไกลเราโดยแท้ และเราก็อยู่ไกลภิกษุนั้น ข้อนั้นเพราะเหตุไร? เพราะภิกษุนั้นไม่เห็นธรรม ผู้ไม่เห็นธรรม ย่อมไม่เห็นเรา"
.
"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าแม้ว่าภิกษุนั้น อยู่ไกลตั้งร้อยโยชน์ ภิกษุนั้นย่อมชื่อว่าอยู่ใกล้เราโดยแท้ และเราก็อยู่ใกล้ภิกษุนั้น ข้อนั้นเพราะเหตุไร? เพราะภิกษุนั้นเห็นธรรม ผู้เห็นธรรม ย่อมเห็นเรา"
พระอาจารย์ปกรณ์นันทน์ ฐิตธัมโม
Image by naidokdin from pixabay
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา