นี่เรียกว่า เบียดเบียนตัวเอง


ตา ไปเห็นรูป ดีไม่ดีก็เก็บมายึดไว้
หู ไปฟังเสียง ดีไม่ดีมาก็ยึดไว้
จมูก ไปได้กลิ่น ดีไม่ดีมาก็ยึดไว้
ลิ้น ได้รับรส ดีไม่ดีมาก็ยึดไว้
กาย ได้รับสัมผัส ดีไม่ดีมาก็ยึดไว้
ใจ ได้รับอารมณ์ ดีไม่ดีมาก็ยึดไว้
.
คราวนี้รูปต่างๆ มันก็จะมาห้อยอยู่ที่ตาของเรา 
เสียงต่างๆ ก็มาห้อยอยู่ที่หูสองข้าง 
กลิ่นต่างๆ ก็มาห้อยอยู่ที่ปลายจมูก 
รสต่างๆ ก็มาห้อยอยู่ที่ปลายลิ้น 
สัมผัสต่างๆ ก็มาห้อยอยู่ที่ตัว 
อารมณ์ต่างๆ ก็มาห้อยอยู่ที่ใจ 
เกะกะรุงรังไปหมด
.
คราวนี้นี้รูปมันก็จะต้องมาปิดตาไว้ 
เสียงก็ปิดหูไว้ กลิ่นก็มาปิดรูจมูกไว้ 
รสก็มาปิดกั้นลิ้นไว้ สัมผัสก็มาปิดตัวไว้ 
ธรรมารมณ์มาปิดใจไว้
.
เมื่อทวารทั้งหกของเราถูกปิดตันไปหมด
ทุกช่องทุกทางเช่นนี้ คนนั้นก็จะต้องเป็นผู้มืด 
คือมืดด้วยอวิชชา คลำหาหนทางไม่พบ 
จะไปทางไหนก็ไปไม่รอด ตัวก็หนัก ใจก็มืด
.
คนนั้นก็ต้องหมดความสุข 
นอนที่ไหนก็ต้องยกมือก่ายหน้าผาก 
นั่งที่ไหนก็ต้องเอามือกอดเช่า 
หน้าตาก็ดำเกรียมไม่มีสง่าราศี 
นี่เรียกว่า เบียดเบียนตัวเอง 
ฆ่าตัวเอง และทำลายตัวเองให้เสื่อมจากความเจริญ

ท่านพ่อลี ธัมมธโร

Image by jakk_wong from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา






 

หากตื่นแล้วจะมี "ปัญญาญาณ"


สังเกตตัวเอง
หากตื่นแล้วจะมี "ปัญญาญาณ" 
จากภายในคอยหล่อเลี้ยง..
ไม่ว่าจะไปพบเจอ ประสบสิ่งใด..
ปัญญาญาณจากภายใน
จะคอยเคลียร์พื้นที่ใจ ไม่ให้มีสิ่งใดตกค้าง..
จิตอยู่ในสภาพคงเดิมคือหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ..
ไม่หลุดไปจากฟากธรรมชาติแม้จะยังอาศัย
อยู่ในรูปของปุถุชน/นักบวชก็ตาม ..
แต่จิตกลับคืนสู่เดิมแท้ของธรรมชาติเสมอ

อิโตมิ จัง

Image by ArabicBrand from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา