การจดจ้องของทุกข์


การมีตัวตน
การทำอะไรด้วยอัตตา..
การขยับชีวิตด้วยอัตตา
อะไรก็อัตตาๆๆ (ตัวกูๆๆ,ของกู)....
ทำให้ทุกข์จับทิศทาง
เพื่อบดขยี้ชีวิตคนเราได้ง่่าย...
การจดจ้องของทุกข์เปรียบดั่งสุนัข
ที่พร้อมจู่โจมเหยื่อทุกเมื่อ..
ทำอะไรก็ตาม..
อย่าทิ้งร่องรอยแห่งอารมณ์
ความรู้สึกที่นำพาสู่การสร้างบาป..
แต่จงมีชีวิตอยู่อย่างผู้ไถ่บาป (ปลดเปลื้องบาป)..
โดยการมีชีวิตด้วยความกรุณาและความรัก..
และเป็นอยู่โดยอนัตตา

อิโตมิ จัง

Image by FelixMittermeier from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


 

สมาธิมั่นคง สติเป็นมหาสติ


ถ้ามันคิดไป คิดแล้วสักแต่ว่าคิด 
คิดแล้วทิ้งไป คิดแล้วทิ้งไป อันนี้มันไม่ฟุ้ง 
แต่ว่าคิดแล้วมันดีใจไป เสียใจไป 
ร้องไห้ไป หัวเราะไป 
ทุกข์ไป สุขไป อันนี้มันฟุ้ง 
แต่ไม่เป็นไร ถ้ามีลักษณะที่มันฟุ้งนี่แหละดีที่สุด 
สติของเราก็จ้องดูอยู่นั่นแหละ
จิตคิดเราก็รู้ คิดแล้วดีใจ เราก็รู้
เสียใจ เราก็รู้ สุข เราก็รู้ ทุกข์ เราก็รู้
ธรรมชาติของจิต เมื่อมีสิ่งรู้ 
สติมีสิ่งระลึก หนักๆเข้า 
มันเพิ่มพลังงานมากขึ้น 
สมาธิมั่นคง สติเป็นมหาสติ 

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย

Image by FelixMittermeier from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา