ไม่มีจิต ไม่มีกิเลส


..ไม่มีจิต ไม่มีกิเลส 
..ที่มันมีกิเลส เพราะมันมีจิต 
หมดผู้เป็น "เจ้าของ" จิตแล้ว 
ธรรมก็ไม่มี 
พิจารณาสมมุติให้เป็นวิมุติ 
ถึงวิมุติแล้วก็ละวิมุติอีก 
นั่นแหละจึงเรียกได้ว่า ธรรมแท้ 
จึงได้ว่ามีจิต จึงมีกิเลส 
ไม่มีจิต ไม่มีกิเลส 
พิจารณาจนเจอจิต 
ละจิตได้ ก็ละกิเลสได้ 
พิจารณาจนเจอจิต
แล้วยึดจิต กิเลสก็ไม่หมด 
อยู่ที่ยึด กับ ไม่ยึด มันก็จบแค่นี้แหละ..
พุทธศาสนารวมลงมาจริงๆ ก็คือ 
แกะความยึดติดของจิต 
แกะความเป็นตัวตน 
แกะออกจากความสำคัญ
มั่นหมายว่าของเรา..

ครูบาเจ้าเพชร วชิรมโน

Image by dangquangn from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา





แก้จิตให้เป็นธรรม


สรรพสิ่งต่างก็แปรปรวนไปตามสภาพ
อยู่ตลอดกัปตลอดกัลป์
จะว่าเขาเที่ยงหรือไม่เที่ยง
เขาไม่ได้รับรู้ดอก
แต่แล้วใจของเรานี่แหละ
เป็นผู้ไม่เที่ยงเอง
คอยตำหนิติโทษอันนั้นอันนี้อยู่ตลอด
หากเรารู้ถึงความเป็นจริงแล้ว
ใจเราจะไม่ตำหนิติโทษอื่นๆ
ตำหนิตัวเองดีกว่า
อันนี้เป็นการแก้จิตให้เป็นธรรม

หลวงปู่ศรี มหาวีโร

Image by dangquangn from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา