เราจึงละของเราเอง


ผู้ที่ละมานะทิฏฐิโดยไม่เห็นว่า
การละเช่นนั้นเป็นการน้อยหน้าต่ำตา
หรือโง่เง่าเต่าตุ่นอะไร 
ผู้นั้นมีความเห็นถูกต้อง ไม่หลง 
เพราะการละทิฏฐิมานะ
เราไม่ต้องอาศัยคนอื่น ไม่มุ่งถึงคนอื่น 
เรามุ่งในตัวของเราเอง 
.
มานะ อาสวะ และกิเลสทั้งหลาย
เกิดขึ้นที่ตัวของเรา 
มันทำให้เดือดร้อนวุ่นวาย 
เราไม่ได้ละเพื่อคนอื่น 
เราละเพื่อตัวของเราคนเดียว 
เพราะความเดือดร้อนเกิดขึ้นที่ตัวของเราต่างหาก 
เราเห็นโทษแล้วจึงละ
.
คนอื่นจะชมว่าดีหรือชั่ว
ก็เรื่องของเขาต่างหาก 
เขาจะว่าเราโง่เง่าเต่าตุ่น 
ไม่มีปัญญาสามารถ 
นั่นก็เรื่องของเขาต่างหาก 
ส่วนเราเห็นโทษแล้วว่ามันไหม้
เผาผลาญอยู่ในใจของเรา 
เราจึงละของเราเอง 
ผู้เห็นอย่างนี้จึงจะละได้ 
และไม่ต้องรอให้คนอื่นละหมดแล้วเราจึงค่อยละ

หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

Image by HG-Fotografie from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

อยู่กับความรู้สึกตัวให้เป็น


การไต่ระดับสภาวธรรม..
..แต่ละคนไม่เหมือนกัน
บางทีเราเห็นเพื่อนไปเร็ว !
ทำไม? ..เราช้าจังเลย 

วางใจให้ถูก..สิ่งสำคัญ ก็คือ 
การฝึกซ้อมเป็นประจำสม่ำเสมอ
อยู่กับความรู้สึกตัวให้เป็น 
แล้วก็อยู่กับความรู้สึกตัวไปเรื่อยๆ
สภาวธรรม..จะไต่ระดับขึ้นไปเอง

ใช้เวลาเท่าไหร่? ..ช่างมัน !
ให้พอใจกับสภาวะที่เราอยู่ได้ 
นั่นคือ..การได้ก้าวเดินบนวิถีที่ถูกต้อง
.
พระมหาวรพรต  กิตฺติวโร
มูลนิธิเดินจิต

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


Image by ELG21 from pixabay