”เรือเปล่า”



มองอย่างพุทธ "เรือเปล่า" ก็คือ
จิตที่ว่างเปล่าจากตัวตน 
หรือพูดให้ถูกต้องกว่านั้นก็คือ
จิตที่ว่างเปล่าจาก
ความยึดมั่นถือมั่นในตัวตนนั่นเอง 
ผู้ที่มีจิตว่างเปล่าตามนัยดังกล่าว
ย่อมอยู่ในโลกนี้ได้อย่างราบรื่นและผาสุก 
แม้จะไม่ถึงกับปลอดพ้น
จากการถูกตะโกนด่าว่า
ดังเรือเปล่าของจางจี้อ 
แต่คำตะโกนด่าว่านั้น
ย่อมไม่อาจทำให้ทุกข์ได้ 
เพราะไม่มีตัวตนออกไปรับคำด่า 
ใช่หรือไม่ว่า 
ถ้ามีตัวตนหรือยึดมั่นถือมั่นใน "ตัวกู" เมื่อไร 
ก็อดไม่ได้ที่จะนำเอาคำด่านั้นมาเป็น "ของกู" 
เกิดความสำคัญมั่นหมายว่า "ตัวกู" ถูกด่า 
หรือมี "ตัวกู" เป็นเป้าให้คำด่าว่านั้น
เข้ามากระทบกระแทก

”เรือเปล่า”

พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล

Image by EvgeniT from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


 

เป็นกลางด้วยปัญญา


ถ้าเมื่อไหร่ ... จิตเห็นว่า
ทุกอย่างเป็นของชั่วคราว
จิตมันจะเป็นกลางด้วยปัญญา
ความสุขเกิดขึ้น มันไม่หลงระเริง
เพราะมันรู้ว่า ชั่วคราว
ความทุกข์เกิดขึ้น มันไม่ทุรนทุราย
เพราะมันรู้ว่า ชั่วคราว
ดีใจ เสียใจ สมหวัง ผิดหวัง
มันไม่หลงระเริง ไม่เสียอกเสียใจ
เพราะมันรู้ว่า ชั่วคราว
เห็นไหม พอมันเห็นว่าทุกอย่างชั่วคราว
ใจจะหมดความดิ้นรน
เรียกว่า เป็นกลางด้วยปัญญา

หลวงพ่อปราโมทย์  ปาโมชฺโช

Image by Andhoj from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา