พระพุทธศาสนาอยู่ได้ด้วยเปลือก กระพี้และแก่น


เปลือกของศาสนา คือ ทาน ศีล และศาสนพิธีต่างๆ 
ถ้าทำถูกต้องแล้วจะกลายเป็นกระพี้ 
คือทำจิตให้เบิกบาน ยิ้มแย้มแจ่มใส จนเกิดปีติอิ่มใจ 
ทาน ศีล นั้นจะเข้ามาภายในใจ
หล่อเลี้ยงน้ำใจให้แช่มชื่นอยู่เป็นนิจ 
นี่ได้ชื่อว่า ทำเปลือกให้เป็นกระพี้
.
เมื่อพิจารณาไปถึงความอิ่ม
และความแช่มชื่นเบิกบานของใจ 
ก็เห็นเป็นแต่ว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจากปัจจัย 
คือความพอใจเป็นเหตุ เมื่อความพอใจหายไป 
สิ่งเหล่านั้นดับไปเป็นของไม่เที่ยงเป็นธรรมดา 
เราจะยึดเอาไว้เป็นของตัวตนไม่ได้ 
เป็นอนัตตาไม่มีใครเป็นใหญ่เป็นอิสระ 
แล้วก็ปล่อยว่างเห็นเป็นสภาพตามความเป็นจริง 
เมื่อพิจารณาถูกอย่างนี้ได้ชื่อว่า 
ทำกระพี้ให้เป็นแก่นสาร 
พระพุทธศาสนาอยู่ได้ด้วยเปลือก กระพี้และแก่นอย่างนี้
.
ถ้ามีแต่แก่นอย่างเดียว หากเป็นต้นไม้ 
ก็เรียกว่าต้นไม้ตายย่อมอยู่ไม่ได้นาน
ถ้ามีแต่กระพี้ หากเป็นต้นไม้ 
ก็เรียกว่าต้นไม้หาสาระไม่ได้ 
นอกจากจะทำเป็นฟืนเท่านั้น

ถ้ามีเปลือกอย่างเดียว 
หากเป็นต้นไม้ เช่น ต้นมะละกอ 
พลันที่จะหักเร็วที่สุดเมื่อลมพายุพัดมา
พระพุทธศาสนาวัฒนาถาวรได้นานปานนี้
ก็ด้วยมีทั้งเปลือก กระพี้และแก่น ครบบริบูรณ์

หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

Image by Mirkowa73 from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา