ถึงไม่มีใครดับกิเลส กิเลสเค้าก็ดับเอง



เหมือนไฟกองหนึ่ง 
แม้จะกองใหญ่ขนาดไหน แม้ไม่มีใครดับ 
แต่ขอเพียง "ไม่เติมเชื้อไฟ" 
เมื่อไฟหมดเชื้อ ไฟก็ดับเองโดยธรรมชาติ
นักปฏิบัติฯ ทั้งหลาย ก็เปรียบเสมือนผู้นั่งดูกองไฟ
ไฟเป็นของร้อน แต่จะไม่ร้อนเพราะไฟ 
หากเพียงแต่นั่งดู ไม่กระโดดเข้าไปในกองไฟ
เราจะกระโดดเข้าไปในกองไฟทำไมล่ะ ?
โทสะเกิด โมโหไอ้โทสะนี้มากเลย หงุดหงิด อึดอัด ไม่ชอบ อยากกำจัด!
การกระโดดลงไปในกองไฟ ถือว่าโดนอวิชชาคลุมจิตเรียบร้อยแล้ว
หลงทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ
ลองอดทนดูนะ!
เมื่ออดทนดู จนเห็นไฟดับไปต่อหน้าต่อตา ความรู้สึกใหม่จะเกิดขึ้นมาว่า ... 
อ๋อ! ถึงไม่มีใครดับไฟ ถึงไม่มีใครดับกิเลส กิเลสเค้าก็ดับเองโดยธรรมชาติ
มันเป็นอย่างนี้นี่เอง!!!

พระอาจารย์นวลจันทร์ กิตติปัญโญ

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


เมื่อรู้จริง จะปล่อยวางเอง




..การปฏิวัติเพื่อสร้าง “ที่พึ่ง” ก็ไม่มีเรื่องอื่น 
มีแต่เรื่องการพิจารณาควบคุมจิตใจ 
การพิจารณาให้ปลงตก ไม่ยึดมั่น
จนสามารถปล่อยวางได้ในที่สุ
เมื่อรู้ด้วยสติปัญญาออกมาจริงๆ แล้ว 
มันก็จะปล่อยวางอะไรต่ออะไรออกไปได้เอง ..

ท่าน ก.เขาสวนหลวง

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา