...รู้ก็สักแต่ว่ารู้ เห็นก็สักแต่ว่าเห็น
กันจิตไว้คนละทาง
ไม่ให้ตามออกไปกับความรู้
รู้ก็รู้เฉยๆ เห็นก็เห็นเฉยๆ
ไม่ยึดถือว่าเป็นของเรา
จิตก็จะมีอำนาจเต็มที่
เกิดความสงบขึ้นโดยลำพัง
ไม่เกี่ยวเกาะกับสิ่งใดๆ
สังขารดับสนิทเหลือแต่สภาพธรรมล้วนๆ
คือความไม่มีอะไร
เป็นวิสังขารธรรม เป็นวิมุตติธรรม
จิตก็จะเป็นอิสระ พ้นจากโลก
ตกอยู่ในกระแสธรรมฝ่ายเดียว
ไม่มีการขึ้นลงก้าวหน้า หรือถอยหลัง
เจริญขึ้นหรือเสื่อมลง
ใจเป็นหลักปักแน่นอยู่ที่เดียว
เหมือนกับเชือกที่เขาผูกต้นไม้ไว้กับหลัก
พอตัดต้นไม้โค่น เชือกก็ขาด
แต่หลักยังคงมีอยู่
ใจที่คงที่ย่อมไม่หวั่นไหวต่ออารมณ์ใดๆ
เป็นจิตของพระอริยเจ้าผู้พ้นแล้วจากอาสวกิเลส
บุคคลใด ปฏิบัติใจให้เป็นไปตามที่กล่าวมาแล้ว
ก็ย่อมจะประสบความร่มเย็น สันติสุข
ปราศจากความทุกข์เดือดร้อนใดๆ
ท่านพ่อลี ธัมมธโร
Image by Timrael from pixabay
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา