เราต้องมีสติที่ตรึงไว้อย่างมั่นคงในร่างกาย



จิตจะหมุนไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด
แค่ดึงสติให้กลับมาอยู่กับร่างกาย 
เป็นวิธีที่จะรักษาจิตใจให้มันถูกต้อง 
อาจจะเป็นการดูลมหายใจเข้าออก 
หรือ พิจารณาเวทนาอยู่ในร่างกาย 
มีสติในทุกอิริยาบถ หรือธาตุทั้งสี่ ก็แล้วแต่ 
สิ่งที่สำคัญ คือเราต้องมีสติ
ที่ตรึงไว้อย่างมั่นคงในร่างกาย

พระอาจารย์ปสันโน

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



อย่าประมาทกิเลสเพียงเล็กน้อย



จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

อย่ายึดเอาของยืม มาเป็นของเรา



อย่ายึดเอาของยืม มาเป็นของเรา
เพราะเมื่อถูกเอาคืนไป ก็ต้องเศร้า
เพราะของยืมใช้ชั่วคราว ไม่เป็นไปได้ดั่งใจ
ถ้ายึดสิ่งใดไว้ก็ต้องทุกข์เพราะสิ่งนั้น
เพราะเราจะให้มัน ไม่เปลี่ยนแปลง แต่มันเปลี่ยนแปลง
จะให้มันเป็นสุข .. แต่มันเป็นทุกข์
จะให้ได้ดั่งใจ .. แต่มันไม่ได้ดั่งใจ
จะเอามาเป็นของเรา .. แต่มันไม่ใช่ของเรา
มีแต่ของยืม ที่ต้องคืนไปตามเวลา
ดูจิตมีปัญญาเห็นความจริง .. จะไม่เพลิดเพลิน
เมื่อไม่เพลิดเพลิน ก็จะเบื่อหน่าย
ในสิ่งที่เคยหลงยึดไว้ว่าเป็นของเรา
เมื่อไม่ยึดไว้ก็คลาย
เมื่อคลายก็ปล่อย
เมื่อปล่อยก็หลุด
เมื่อหลุดก็เป็นอิสระจากเครื่องผูกมัด
ที่ร้อยรัดมัดจิต มานานแสนนาน

พระอาจารย์ธัมมทีโป

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



คนที่มีสติเหมือนกับอยู่ในบังเกอร์ป้องกันอารมณ์



คนที่มีสติเหมือนกับอยู่ในบังเกอร์ป้องกันอารมณ์
ที่มันจะเกิดขึ้น ทางตา ทางหู ทางจมูก
ทางลิ้น ทางกาย ทางจิตใจ
ถ้าคนไม่มีสติเหมือนกับคนยืนอยู่โดดเดี่ยว
ลูกศรมาทางทิศใด ก็อาจจะถูก
เป็นการเสวยเวทนาตลอดชาติตลอดชีวิตถ้าไม่มีบังเกอร์
เพราะฉะนั้น บังเกอร์ของการรบกับศัตรู
คือกิเลสทั้งหลาย คือสติ
บังเกอร์ที่ปลดเปลื้องจิตวิญญาณออกจากแอกก็คือ สติ

หลวงพ่อคำเขียน สุวัณโณ

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา