จงหันเข้ามาที่ความรู้สึก อย่าคิดออกไปไกลตัว
ความรู้สึกตัวและรู้จักใจ
ความรู้สึกนี้แผ่กระจายกลายเป็น
ความสว่างสบายไปในทุกๆ ส่วน
ไม่ยึดถือแต่กลับทรงอยู่ได้ดี
ไม่ได้ทำอะไรมาก กลับได้ผล
ไม่พยายามจะแยกแยะคิดพิสูจน์อะไร
กลับรู้กลับเห็นได้โดยตรง..
.
หายใจเป็นความรู้สึก
ความรู้สึกสัมพันธ์กับลมหายใจ
คิดนึกไปเช่นไรรู้ได้เอง
คิดเอง ตัดเอง เข้าใจเอง ในตัวนี่เอง
อย่างนี้เรียก อาตมวิทยา (Self Knowledge)
ซึ่งได้โดยตรง ไม่ต้องคิดคล้อยตาม
หรือนึกตามแนวทฤษฎี
.
มีได้โดยอาการอย่างนี้
คือต้องรู้อาการจึงรู้สมุหฐาน
เห็นอาการของตัวเอง
กายและจิตมีปฏิกิริยากันเช่นไร
ตามที่มันเป็นอยู่เอง ตามกฎ ตามศีล(ปรกติ)
ตามธรรมของมัน ก็จะรู้สมุหฐาน
.
ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ไปแต่งตั้งหรือใครบันดาล
เรียกว่าการกระทำของธรรม กิริยาของธรรมชาติ
กฎแห่งความสัมพันธ์สืบต่อกัน
หาใช่ใครหรืออะไรแต่อย่างใดอย่างหนึ่ง
ยืนอยู่ในฐานะผู้กระทำหรือผู้ถูกกระทำ
.
ไม่มีกฎแห่งการกระทำ
ไม่เกี่ยวกับได้หรือเสียนั้น เนื่องแต่คนไปยึดถือเอา
โดยเข้าใจผิดต่อกฎมูลฐานนี้
ชอบจะจดจำ ชอบจะหยุดอยู่
เลือกสรรบางสิ่งที่ตนชอบ
เห็นเช่นนั้นมันเลิกยึดเอง เรียกว่าเห็นกรรมก็รู้เองว่า
ได้กระทำผิดต่อตนเองมาอย่างไร
ที่ตรงนี้จะหน่าย คลายละวางเอง
ท่านเขมานันทะ
............................................................................
จาก แรมรายคืน
บันทึกการเดินทางระหว่างปี ๒๕๒๒-๒๕๒๕ ครั้งไปเยือนอิตาลี สิงคโปร์
อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย ขณะนั้นท่านยังครองสมณเพศ
Image by jggrz from pixabay
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา