ธรรมชาติจิตนั้นมีแต่รู้อยู่เฉย ๆ
รู้แล้วก็ดับไป
แต่สติปัญญาที่ไม่รู้เท่าทันมัน
จึงไปนำสิ่งเหล่านั้นมาสำคัญ
ว่าเป็นตัวเรา ว่าเป็นของเรา
จึงหลงยินดียินร้ายไปกับตัวสังขารที่ปรุงแต่งขึ้นมา
จริง ๆ แล้วภายนอกทั้งหมดก็ไม่มีอยู่ในใจ
สิ่งที่มีอยู่ในใจก็แค่สังขาร
กับความรู้ที่เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป ต่อเนื่องเป็นสาย
ไม่มีอะไรเป็นของเรา เป็นตัวเราที่แท้จริง
สิ่งภายนอกไม่มีอยู่ในใจ ว่างจากในใจหมด
แต่ความไม่เห็นแจ้งในความจริงเหล่านี้
จึงสำคัญผิด จึงเห็นผิด จึงรู้ผิด ว่ามันมีอยู่
จิตจึงถูกย้อมด้วยความหลง
ด้วยความรู้ไม่เท่าทันสิ่งที่เกิดขึ้นในจิต
จึงเรียกว่าหลงสมมติ
พระอาจารย์วิชัย กัมมสุทโธ
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา