คันธสาระ (ธรรมสาระ) 5 ประการ
1. ศีล
คือการที่จิตของเราปราศจาก รอยด่างของทุจริต ความชั่ว
ความผิด ความริษยา ความตระหนี่ ความโกรธ การใช้กำลังข่มขู่
และการผูกเวร
.
2. สมาธิ
คือการที่จิตของเราไม่มีอาการหวั่นไหว ในทุกเหตุการณ์ที่เข้ามาแวดล้อมเรา
ไม่ว่ามาดีหรือมาร้าย
.
3. ปัญญา
คือการที่จิตของเราเป็นอิสระจากเครื่องห่อหุ้มรึงรัด ...
...หมายถึงการที่เราส่องปัญญาเราอยู่เนืองนิจ ลงที่จิตเดิมแท้ของเรา...
หมายถึง ความที่เราเป็นผู้พ้นเด็ดขาดจากการที่จะทำชั่วทุกประเภท
หมายถึง ความที่ว่าแม้เราทำความดีทุกสิ่งทุกอย่าง
ถึงกระนั้นเราก็ไม่ปล่อยให้ใจของเราเกาะเกี่ยวอยู่กับผลแห่งความดี และ
หมายถึง เรายอมเคารพนับถือผู้ที่สูงกว่าเรา อ่อนน้อมต่อผู้ที่ต่ำต้อยกว่าเรา
เห็นอกเห็นใจคนที่หมดวาสนาและคนยากจน..
.
4. ความหลุดพ้น (วิมุตติ)
คือความที่ใจของเราขึ้นถึงขั้นเป็นอิสระเด็ดขาดไม่เกาะเกี่ยวอยู่กับสิ่งใด
ไม่ผูกพันตัวเองอยู่กับความดีและความชั่ว
.
5. ความรู้อันเราได้รับในขณะที่
ลุถึงความหลุดพ้น...
เมื่อจิตของเราไม่เกาะเกี่ยวกับความดีและความชั่วแล้ว
เรายังจะต้องระวัง ไม่ปล่อยให้จิตนั้นอิงอยู่กับ
ความว่างเปล่าหรือตกลงไปสู่ความเฉื่อย..
ยิ่งกว่านั้นเรายังจะขยายความรู้ของเรา ให้กว้างออกไปจนกระทั่ง
เราสามารถรู้จักจิตของเราเอง
สามารถเข้าใจโดยทั่วถึงในหลักแห่งพุทธธรรม ทำตนเป็นฉันญาติมิตร
กับสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ที่เราเกี่ยวข้องด้วย
บำบัดความรู้สึกว่า "ตัวตน"
และความรู้สึกว่ามีว่าเป็นเสียให้หมดสิ้น
.
คันธสาระอันประกอบด้วยองค์ห้าประการนี้ ย่อมอบอวลออกมาจาก
ภายในและเราไม่ควรแสวงหามันจากภายนอก...
สังฆปริณายกที่ 6 ท่านเว่ยหลาง
พุทธทาสภิกขุ...แปล
Photo by 五玄土 ORIENTO on Unsplash
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น