ที่ว่านิพพาน ๆ นั้นมิใช่อื่น
คือจิตใจเราธรรมดานี่เอง แต่พ้นจากอาสวะทั้งปวงได้แล้ว
คือธรรมชาติจิตเดิม
ธรรมชาติของเขา ย่อมเป็นของไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย....
พระอรหันต์ ที่เป็นผู้รู้แจ้งโลก ละโลกได้เป็นสมุจเฉทปหานได้แล้วนั้น
ถ้าขันธ์ ๕ ยังปรากฏแก่โลกอยู่ ก็เป็น ขันธวิสุทธิ์
หมดบุญ หมดบาป
เพราะดวงจิตไม่ได้เข้ามายึดเป็นกรรมสิทธิ์
จิตพ้นจากอาการของขันธ์ คือ สังโยชน์ ๑๐ ดับสนิท
มิได้มาพัวพันจิตได้อีกแล้ว.... ที่เรียกว่า "นิพพานธรรม"
คือ จิตผ่องใส ไม่มีราคะ โทสะ โมหะ มาปกปิดอีกได้
ถึงธรรมชาติของจิตเดิม อันสว่างไม่มีสิ่งที่จะเปรียบได้....
เมื่อความสว่างอันนั้นเกิดขึ้นแล้ว
ย่อมทำลายความสว่างของโลกทั้ง ๓
...กามภพ รูปภพ อรูปภพ..ให้หายไปหมด
ไม่ปรากฏว่ามีภพนั้น ภพนี้อีกเลย....
เมื่อจิตของตน ยังไม่พ้นไปจากกิเลสแล้ว
ย่อมเห็นว่าทั้ง ๓ ภพ มีความสว่างอยู่ หรือ เป็นสุขอยู่
ท่านพ่อลี ธัมมธโร
Cr.เพจ พุทธมหาเจดีย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ภูผาแดง
Image by Akiroq from Pixabay
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น