“ทุกท่านคงได้ประจักษ์ตัวเองแล้วว่า ความคิดมากมายรุมเร้าจิตใจอยู่
ก่อนหน้านี้เราไม่รู้เลยว่าในจิตใจของเราเต็มไปด้วยความคิด
แต่ครั้นเราเหลียวมาดู ตั้งสติดูเข้าในตัวเองจึงพบว่า
เป็นเสียยิ่งกว่าชุมทางรถไฟอันสับสนพลุกพล่าน”
.
ความคิดมากมายหลายกระแสทั้งดี ทั้งเลว ทั้งเป็นกุศล เป็นอกุศล
แต่ถ้าไม่มีความคิดเลย เป็นแต่ความสงบระงับ สติก็ไม่มีคู่ต่อสู้หรือคู่ปรับ
.
“ดังนั้น เมื่อเราปฏิบัตินั้นเราไม่เอาความสงบเป็นหลัก ความสงบถือว่าเป็นผลบั้นปลาย
นั่นคือสงบเพราะรู้ตัว รู้แจ้ง ไม่ใช่สงบเพราะไม่รู้ อยู่ภายใต้โมหะ”
.
๐ คนที่ฉีดยาสลบหรือกินยานอนหลับ เขาก็สงบ
แต่ไม่มีความรู้ตัวไม่มีสัมปชัญญะ ความสงบชนิดนั้นไม่ต่างกับ
ท่อนไม้หรือคนที่นอนหลับสนิทไป
.
“แต่เราต้องการความสงบชนิดตื่นตัวและรู้ตัว
เมื่อรู้แจ้งตื่นตัวอยู่ก็จะสงบ ความสงบชนิดนี้นั้น
ทำให้เกิดดวงตาแห่งชีวิตและการภาวนาบริบูรณ์”…
ท่านเขมานันทะ
Image by Pexels from pixabay
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น