อำนาจของความดีและความชั่วนี้
เปรียบเหมือนกับแม่เหล็กหรือแร่ธาตุ
ที่จะดูดดึงดวงจิตของคนให้ทำความดีความชั่ว
และไปเกิดในที่ดีเลวได้ตามอำนาจความแรงของมัน
.
เราทำความดีหรือความชั่วไว้
มันก็เป็นแม่เหล็กตกอยู่ในโลก
แล้วแม่เหล็กนั้นก็ดูดดึงตัวเรา จิตเรา
ให้ไปสู่สถานที่ของมัน
คนโง่ที่ไม่รู้จักหลบหลีกหรือถอนตนให้พ้น
จากอำนาจของความดีความชั่ว
ก็ย่อมจะถูกดูดดึงไปตามสายแร่ธาตุนั้นๆ
แล้วก็ต้องเวียนว่ายอยู่ในโลกนี้อีก ไม่ไปไหน
.
แต่นักปราชญ์ท่านมองเห็นภัยในสิ่งนี้
ท่านจึงพยายามหาทางตัดสายแร่ธาตุออกเสีย
ให้หลุดลอยตัวเป็นอิสระพ้นจากอำนาจของมัน
คือ ทำดีแล้วก็ตัดสายแร่
ทำชั่วแล้วก็ตัดสายแร่ ไม่ให้ติดต่อ
คือ “การไม่ยึดมั่นถือมั่น”
ในสิ่งที่ตนได้กระทำไปแล้ว
.
จะทำดีหรือทำชั่วก็ตาม
ไม่ยึดถือเอามาเป็นสมบัติของตัว
ทิ้งไว้ให้เป็นสมบัติของโลก
ไม่เก็บมาลูบคลำเลย อย่างนี้เรียกว่า เป็นผู้มีปัญญา
สามารถตัดสายแร่ของโลกียะเสียได้
ท่านพ่อลี ธัมธโร
Image by fotoblend from pixabay
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น