ถ้าจิตของเราเป็นอิสระ
พอรับรู้อารมณ์ต่างๆ ทางทวารต่างๆ
ใจเราจะนิ่งเฉยมั่นคง นี่คือสมาธิ
แล้วเราก็จะเห็นสิ่งต่างๆ มันเป็นของมันเช่นนั้นเอง
นี่เรียกว่า จิตใจของเราเป็นอิสระแล้ว
.
หลุดพ้นแล้วเสียจากการเป็นทาสของอารมณ์ต่างๆ
ปัญหาต่างๆ ที่มันเกิดขึ้น เพราะมันมีตัวเรา
เมื่อตัวเราไม่มี ปัญหาก็ไม่เกิดขึ้น
การดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง
หรือดำเนินชีวิตพรหมจรรย์ก็คือ
การดำเนินชีวิตอย่างเป็นอิสระจากอารมณ์ต่างๆ
.
ในขณะเดียวกันเราก็มีความสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวกับสรรพสิ่งด้วย
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะทำอะไรก็ได้
โดยที่เราไม่คำนึงถึงกฎเกณฑ์ธรรมเนียมประเพณี
และวัฒนธรรมของสังคมนั้นๆ
ความเป็นอิสระหมายถึงจิตใจ
ที่ไม่ตกเป็นทาสของอารมณ์ต่างๆ
.
ที่ตกเป็นทาสก็คือเมื่อเรารับรู้แล้ว
เราจะมีความรู้สึกพอใจ ไม่พอใจ ชอบ ไม่ชอบ
เกิดความรู้สึกอยากได้คือความโลภ
เกิดความรู้สึกปฏิฆะคือความโกรธ
นี่เรายังตกเป็นทาสของอารมณ์
แต่ถ้าเราเป็นอิสระไม่ตกเป็นทาสของอารมณ์
ก็คือเมื่อเรารับรู้แล้วใจของเราไม่เอาสิ่งนั้น
มาปรุงแต่งให้เกิดความรู้สึกบวก ความรู้สึกลบ
ให้เกิดความรู้สึกที่เป็นของคู่ๆ ขึ้นมา
นี่คือเราเป็นอิสระจากอารมณ์ต่างๆ
ที่มากระทบทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น
ทางกาย ทางใจ จิตที่มีอิสรภาพก็จะมีคุณภาพ
ซึ่งจะแสดงออกเป็นบุคลิกภาพของ
ความเป็นมนุษย์ที่แท้
ที่ตื่นขึ้นแล้วจากการเห็นโลกในทัศนะใหม่
ในทัศนะที่ผิดไปจากเดิม
หลวงพ่อโพธินันทะ
Image by sharkolot from pixabay
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น