เราเป็นพุทธศาสนิกชนที่เข้าวัดทำบุญสร้างกุศลกัน
เพียงหวังปรารถนาให้ชีวิตของตนดีขึ้น
และเป็นไปอย่างที่ใจเราต้องการ
หรือทำเพื่อความสบายใจ ทำตามที่เขาทำๆกันมา
ซึ่งการเข้าวัด ย่อมมีการทำบุญ และเกิดการขวางบุญเป็นธรรมดา
.
ขอยกตัวอย่างพอประมาณ ดังนี้ :-
.
เขาจะเดินเข้าไปในโบสถ์วัด...เราก็ไปขวางทางเดินเขา
บางครั้งเขาไหว้พระอยู่...เราก็คุยกันเสียงดัง
เกิดเป็นกรรมขึ้นมา
.
ไม่เฉพาะในวัดเท่านั้น แม้แต่เวลาจะมีการให้ทานเช่น
แล้วลูกจะให้ทานแก่ขอทานนั้น
แต่แม่มาปรามไว้ว่า...อย่าให้
เพราะกลัวขอทานเป็นมิจฉาชีพ
ซึ่งถึงขอทานนั้นจะเป็นมิจฉาชีพจริงหรือไม่
.
มีซองผ้าป่ามาที่บ้าน
แฟนกำลังใส่เงินทำบุญไป 100 บาท
แต่เราไปบอกแฟนว่า 20 ก็พอ
เพราะแทนที่แฟนจะได้สร้างกุศลในปัจจัย 100 บาท
กลับถูกขวางให้เหลือ เพียง 20 บาทเท่านั้น
.
ไปหลอกเขาว่านี่น้ำเก๊กฮวย แต่ที่จริงเป็นเหล้า
เป็นการขวางไม่ให้เขารักษาศีลได้สำเร็จ
ทั้งยังไปทำลายศีลเขาอีกด้วย
.
มีผู้ฟังธรรมหรือแสดงธรรมอยู่
ก็ไปทำให้ผู้ฟังเขาไม่สนใจฟัง
โดยคุยเรื่องอื่นๆ ขึ้นมาแทรก
และควรระวังควบคุมถ้านำบุตรหลานท่านไป
.
เขานั่งสวดมนต์อยู่ ก็ไปชวนคุยออกนอกเรื่อง
เพราะแทนที่เขาจะได้สวดมนต์สร้างกุศลต่อ
กลับต้องมาหยุด เพราะคำพูดของเรา
.
เขานั่งสมาธิอยู่ เราเปิดเพลงเสียงดัง
คุยโทรศัพท์เสียงดัง จนทำให้เขาต้องหยุดนั่งสมาธิไป
หรือนั่งได้ลำบากยิ่งขึ้น
.
เราจะเห็นได้ว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวเราทั้งสิ้น
และอาจเป็นกรรมที่เราคาดไม่ถึง ซึ่งสรุปได้ว่า..
ทุกสิ่งที่เป็นการสร้างกุศล
แต่มีผู้ที่มาลดทอน ก่อกวนให้สร้างไม่สำเร็จนั้น
ย่อมเรียกว่า การขวางบุญ
.
จะสำเร็จได้ยาก เหมือนมีอะไรที่เป็นอุปสรรค
เข้ามาขวางตลอดเวลา
อาจตาบอด หูหนวก ปางแหว่ง มีปัญหาทางช่องปาก
เป็นผู้ที่เขลาเบาปัญญา
เกิดมาเตี้ยผิดปกติ หรือที่เรียกว่าคนแคระ
.
ที่สุดแล้วต้องไปชดใช้กรรมในอบายภูมิ
อย่างแสนสาหัสยาวนานต่อเนื่อง
เพราะการขวางบุญ เหมือนเราไปขวาง
ทางสว่างของชีวิตผู้อื่น
เมื่อเราขวางทางสว่างของผู้อื่น
เราย่อมรับผลของกรรมนั้นเช่นเดียวกัน
.
วันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๖๔ เวลา ๐๗.๐๓ น. :-
การบรรยายธรรมจากการกราบสมเด็จองค์ปฐมในสมาธิ
บันทึกธรรมโดย ธรรมรัตน์
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น