แม้จะตั้งหน้าตั้งตาทำความดี
และได้รับผลดีอย่างที่หวังแล้ว
ก็ไม่ควรติดอยู่ในความดี
ไม่แบกดีไว้ให้หนักอกหนักใจ
อันที่จริงชั่วก็เป็นของหนัก
ดีก็เป็นของหนัก
จึงไม่ควรแบกทั้งดีและชั่ว
เปรียบไปก็เหมือนกับว่า บ่าข้างหนึ่ง
เราแบกดิน แบกหิน หรือโคลนตม
อีกข้างหนึ่งเราแบกเงิน ทอง เพชรนิลจินดา
มันก็หนักเหมือนกัน
แบกเงิน ทอง เพชรนิลจินดา
ยังอันตรายกว่าด้วย
เพราะมีคนคอยแย่งชิง หรือกลัวเขาแย่งชิง
มนุษย์ทะเลาะวิวาทกันเพราะแย่งดีกันก็มาก
...
การแข่งดี (สารัมภะ) เป็นอุปกิเลส
คือสิ่งที่ทำใจให้เศร้าหมองอย่างหนึ่ง
ที่เขาด่า เราเจ็บ และสรรเสริญเราดีใจ
ก็เพราะเราแบกเอาดีไว้นั่นเอง
แล้วเราก็กลัวถูกด่าและดิ้นรนหา
เสียงสรรเสริญซึ่งก็เป็นทุกข์เท่าๆ กัน
ถ้าเปรียบความชั่วเหมือนโรค
ความดีเหมือนยา เรากินยาเพื่อหายโรค
เมื่อหายโรคแล้วก็ไม่ต้องกินยาอีก
ธัมมาลังการ
อ.วศิน อินทสระ
Image by Rigby40 from pixabay
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น