ทักษะหนึ่ง ที่พวกเราทุกคนพึงให้ความสำคัญ


ความทุกข์ในชีวิตที่เราต้องประสบ
ความเจ็บปวดต่าง ๆ สิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจ
เราจะสามารถสลัดสิ่งเหล่านี้
ออกไปจากชีวิตของเราได้
มันไม่ง่ายเหมือนกายภาพภายนอกนะ
.
คนนี้ไม่ดี ทำให้เราทุกข์ใจ
..ไล่เขาก็ออกไป
แต่สิ่งที่มันอยู่ในใจเรา
..เราสลัดไม่ออกนะ
ความบีบคั้นของจิตใจนี่ 
เราสลัดสิ่งเหล่านี้ไม่ออก 
เอาเงินจ้างให้มันออกไปจากชีวิตของเรา
ก็ทำไม่ได้นะ...แต่สติสัมปชัญญะทำได้นะ
.
เพราะฉะนั้น จึงเป็นทักษะหนึ่ง
ที่พวกเราทุกคนพึงให้ความสำคัญ
เพราะว่า มันเป็นประโยชน์เกื้อกูล
ในทุกๆ เรื่องในชีวิตของเรา
ยังไม่จำเป็นต้องกล่าวถึง..
ประโยชน์ในเรื่องของการหลุดพ้นจากวัฏฏะนะ
แค่ประโยชน์เบื้องต้นที่เราจะได้รับ
คือ มันทำให้เราหลุดออกจากความทุกข์
ที่เรากำลังเผชิญอยู่ในชีวิตต่าง ๆ
แล้วก็จะทำให้ใจเรามีความมั่นคงขึ้นมา
.
การปล่อยวาง...
เป็นกำลังของสติสัมปชัญญะนะ
มันไม่ใช่เรื่องของการใช้ตรรกะ
ใช้สมองในการคิดปล่อยวาง
มันไม่ง่ายเหมือนการวางของนะ
นึกอยากจะวาง..ก็วาง 
อย่างเวลาเราคิดให้ไม่สบายใจมาก 
อยากจะปล่อยวาง ก็วางไม่ออกหรอก 
มันก็ติดอยู่นั่นแหละ
.
ใครๆ ก็รู้ว่าอารมณ์ที่มันทุกข์ใจ...มันไม่ดี 
แต่ว่าอยากจะออกมา
มันออกมาไม่ได้ ปล่อยวางไม่ได้
เพราะฉะนั้น การอบรม #สติปัฏฐาน4
จะทำให้ท่านทั้งหลายมีขีดความสามารถ
ที่จะหลุดออกจากอารมณ์ต่างๆ
.
หลุดจากความเครียด
หลุดจากความวุ่นวายใจ 
หลุดจากความทุกข์ทรมานต่างๆ
ยิ่งในยุคสมัยนี้ที่ความทุกข์ส่วนใหญ่
ที่คนประสบ คือ ความบีบคั้นของจิตใจ
ก็จะทำให้คนเป็นอิสระจากอารมณ์ได้ 
ปล่อยวางอารมณ์ต่าง ๆ ได้
จึงเป็น #ทักษะที่สำคัญที่สุดในยุคสมัยนี้
.
การจัดการกับอารมณ์ การจัดการกับความคิดตัวเอง
จะเกิดขึ้นเมื่อมีกำลังของสติสัมปชัญญะ
ทำความรู้สึกตัวขึ้นมาเนืองๆ 
จนเกิดความรู้สึกตัวทั่วพร้อมขึ้นมา 
อันนี้คือ ประโยชน์เบื้องต้นเลย Basic เลย 
ที่เราจะได้รับจากการปฏิบัติธรรมนะ 
ก็คือ การที่เราจะเป็นอิสระจากอารมณ์ต่างๆ
หลุดออกจากอารมณ์ต่างๆ 
ที่ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นอารมณ์
ที่ทำให้เราทุกข์ใจ วุ่นวายใจนั่นแหละนะ
.
เพราะฉะนั้น เมื่อเราพัฒนาสติ
จนเกิดความรู้สึกตัวทั่วพร้อมขึ้นมา
ก็ให้ทำความรู้สึกตัวทั่วพร้อมขึ้นมาได้เนือง ๆ
นั่ง...ก็รู้สึกตัวทั่วพร้อม 
ยืน...ก็รู้สึกตัวทั่วพร้อม
เดิน...ก็รู้สึกตัวทั่วพร้อม 
จะทำอะไรอยู่ คู้เหยียดเคลื่อนไหว
ก็ระลึกรู้สึกตัวทั่วพร้อมขึ้นมาอยู่เสมอ
.
ฝึกจนสามารถดำรงอยู่ได้เป็นวิหารธรรม 
เป็นเครื่องอยู่ของจิตของเรา
คำว่า วิหารธรรม ก็คือ ที่อยู่ เครื่องอยู่
อย่างกายภาพภายนอก
เราก็ต้องมีบ้านเป็นที่อยู่อาศัย
อิงแอบ หลบร้อน หลบหนาว
เป็นความมั่นคงของการมีชีวิต 
แล้วภายในใจเราล่ะ? 
ภายในใจเรา ก็ต้องมีเครื่องอยู่เช่นกัน
เพราะว่า ถ้าใจเราไม่มีเครื่องอยู่ปุ๊บ
ใจเรา ก็จะหลงอยู่กับกระแสของโลก
เกิดความเครียด เกิดความวุ่นวายใจ
เกิดความเร่าร้อนกระวนกระวายต่างๆ
.
แต่พอใจมีเครื่องอยู่ 
มีความตั้งมั่นอยู่ภายใน 
เราจะพบกับชีวิตที่มันสงบเย็น
ไม่เร่าร้อน ไม่วุ่นวาย
บางทีมันก็แว็บไปบ้าง
ก็สามารถตั้งสติกลับขึ้นมาใหม่ได้นะ
.
เพราะฉะนั้น ความรู้สึกตัวทั่วพร้อม
เป็นวิหารธรรม ที่ทุกคนควรเข้าถึง 
เป็นเครื่องอยู่ของจิต
มันจะทำให้เรามีชีวิตที่มั่นคง
.
ความมั่นคงที่แท้จริง ต้องเริ่มจากภายใน 
ก็คือ ใจของเรานั้นมีความมั่นคง
มีความมั่นคงทั้งภายใน 
และก็มีความมั่นคงทั้งภายนอก
แล้วมันจะนำไปสู่ชีวิตที่เราสงบเย็นได้
.
ธรรมบรรยาย โดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร
6 กุมภาพันธ์ 2564

Cr.เพจ เดินจิต..

Image by wal_172619 from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น