เมื่อเราจะทำความเข้าใจเรื่อง “เวทนา”
เราควรเข้าใจคำว่า “ขันธ์ 5“
คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
ที่เราเรียกว่า “ชีวิต” ของเรา
.
ขันธ์ 5 ต่างทำงานกันตามเหตุปัจจัย
แต่เพราะเราไม่เห็นตามความจริงนี้
...เราจึงไปหลง “ยึดถือ” ว่าเป็นเรา มีเรา
เราทุกข์ เราสุข เราเป็นนั่นเป็นนี่
.
ในความเป็นจริง “อัตตา หรือ ตัวตน” ไม่เคยมีอยู่จริง
มีแต่ “ความยึดถือว่ามีตัวเรา”
และเพราะมีการยึดถือนี่แหละ..ทำให้เราเป็นทุกข์อยู่ร่ำไป
#เราจัดการเวทนาไม่ได้
เราทำได้แค่ชั่วคราว เช่น ขยับ เปลี่ยนท่าทาง เจ็บปวดก็กินยา ...
ทั้งหมดแค่ชั่วคราว ใครก็หนีเวทนาไม่พ้นตราบใดที่มีขันธ์
#เราไม่ได้ฝึกเพื่อหนีหรือข้ามเวทนา
ในทางปฏิบัติ เราทำได้แค่รู้เวทนา
พาจิตให้เห็นความทุกข์จากเวทนา ว่าเวทนาเป็นแบบนี้
สภาวะสุขเป็นแบบนี้ ทุกข์เป็นแบบนี้ ไม่สุขไม่ทุกข์เป็นแบบนี้
.
เห็นกระทั่งว่า แท้จริงแล้ว “สุข” ก็คือสภาวะทุกข์ที่น้อยลงนั่นเอง
และถ้ารู้บ่อยๆ จะเห็นอีกว่า
ทุกๆ เวทนาที่เกิดขึ้น มันไม่เที่ยง มันเป็นทุกข์
และมันไม่มีตัวเราอยู่ในนั้น
.
จะเห็นความจริงว่า ขั้นธ์ 5 ทั้งหมด (ซึ่งรวมถึงเวทนาด้วย)
เป็นทุกข์ในไตรลักษณ์ ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้
จิตจะค่อยๆ ศึกษาและเข้าใจไปตามลำดับ
แบบนี้เรียกว่า ใช้เวทนาเป็นเครื่องฝึกให้เกิดปัญญา
พระอาจารย์มหาวิเชียร ชินวังโส
เพจคลิกใจให้ธรรม
Image by AdelinaZw from pixabay
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น