ไม่ศึกษาและปฏิบัติธรรม คือไม่สนใจธรรมชาติของตัวเอง


อะไรๆ ก็เหมือนกัน
ไม่ดู..ก็ไม่เห็น ไม่เห็น..ก็ไม่เข้าใจ
เราไม่ยอมมองด้านใน..ก็ไม่เห็นตัวเอง
ไม่เห็นก็ไม่เข้าใจ
.
คนจำนวนไม่น้อย
จึงชอบพูดว่า เขาไม่เห็นว่าศาสนา
มีความจำเป็นอะไรแก่ชีวิต
เขามีความสุขพอสมควรแล้ว
ไม่มีปัญหาอะไรนักหนา และ
ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนแก่ใคร
(พอกล่าวคำนี้ ผู้ใกล้ชิดมักจะต้องอมยิ้ม
หรือส่ายหัวนิดๆ)
.
คนที่มองอย่างนี้
มักขอให้หาความสุขแบบชาวบ้านก่อน
คือเขามองธรรมะเหมือนยาสมุนไพรขมๆ
ที่ควรเอาไว้ในอนาคตโน้น
ตอนจวนหมดบุญ รักษาทางอื่นไม่ได้ผล
ไม่มีทางเลือกแล้วจึงค่อยลอง
.
นี่คือความประมาท ทำไม เพราะมองไม่เห็น
เนื้อร้ายที่เกิดที่หัวใจเสียแล้ว
ซึ่งธรรมะเท่านั้นที่ขจัดได้
เป็นความคิดที่เกิดจากการไม่มองด้านใน
ไม่ดูก็ไม่เห็นปัญหาที่ซ่อนเร้นอยู่แล้ว
และคอยบั่นทอนคุณภาพชีวิตตลอดเวลา
.
ความยึดติดเกิดที่ไหน
ความเครียดและความกลัวเกิดที่นั่น
ผู้อยู่ในโลกแต่ไม่รู้เท่าทันโลก
ไม่ศึกษาและปฏิบัติธรรม
คือไม่สนใจธรรมชาติของตัวเอง
ไม่สนใจธรรมชาติของตัวเอง
ย่อมเป็นเหยื่อของมันอยู่เรื่อย อย่างเช่น
กลัวความตาย เป็นต้น และกลัวการ
พลัดพรากจากสิ่งที่ให้ความสุขแก่ชีวิต
พระอาจารย์ชยสาโรภิกขุ

Image by dangquangn from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น