ไม่ใช่ "ละ" แต่ต้อง "รู้"





การที่จะปฏิบัติให้ถึงมรรคผล..นั้น จึงไม่ต้องคิดละอะไรทั้งสิ้น 
ที่แท้การคิดว่า จะละความโลภ ..โกรธ ..หลง ..มันกลับไม่ถูกอุบาย... 
เราต้องดูให้รู้เห็นสิ่งนั้นตามความเป็นจริง ว่ามันไม่ใช่เรา 
และรู้ว่าเรายึดมันไว้ด้วยอำนาจความหลง ...
เพราะเหตุที่เรามี “อวิชชา” คือความไม่รู้แจ้ง ทำให้เราไม่รู้จักตนตามความเป็นจริง 
เป็นเหตุให้สำคัญเอาขันธ์ ๕ คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ...
ซึ่งไม่ใช่ตน ว่าเป็นตน จิตจึงยึดขันธ์ ๕...ไม่ยอมปล่อยวาง 
เราจะนึกปล่อยนึกวางอย่างไรก็ไม่ได้ผล
ครั้นเราทำการดูอยู่ จนรู้เห็นตามความเป็นจริงว่าไม่ใช่ตน 
“วิชชา” ก็เกิดขึ้น “อวิชชา” ดับไป ความหลงก็ดับไปด้วย 
ความยึดคืออุปาทานในขันธ์ทั้ง ๕ ก็ดับด้วย...
เราไม่ต้องตั้งใจปล่อย ไม่ต้องตั้งใจวาง ไม่ต้องตั้งใจละอะไรทั้งสิ้น 
หลักความจริงมีอยู่อย่างนี้

หลวงปู่เจือ สุภโร

จากเทศนาธรรมเรื่อง กุณฑลิยสุตตกถาเทศนา
ที่กระทรวงศึกษาธิการ ๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น