เธอคือนิพพาน


เธอคือนิพพาน
เธอจึงไม่สามารถตามหาสิ่งที่เธอเป็นอยู่แล้ว
เธอทำได้เพียงสลัดสิ่งที่ไม่ใช่เธอทิ้งไปเท่านั้น
เพียงแค่เป็น..สิ่งที่เธอเป็น

You are Nirvana. 
You cannot seek what you already are. 
You can only let go of what you are not. 
Just be.

Unknown
เพจ Vedic Vortex

Image by ID 512893 from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


 

อิสรภาพของชีวิต


เอาคำว่า "มีก็ดี ไม่มีก็ได้" 
นี้ไว้ถามตัวเอง 
เป็นการตรวจสอบอยู่เสมอ... 
ถ้ายังพูดได้ว่า มีก็ดีไม่มีก็ได้ 
ก็เบาใจได้ว่า 
เรายังมีอิสรภาพอยู่

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตโต)

Image by SnapwireSnaps from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

อย่าต่อเติมความคิด


จิตตภาวนาทำให้โล่งทำให้สบาย 
สิ่งไหนมีอำนาจมาก สิ่งไหนที่จิตให้ความสำคัญ...
สิ่งนั้นทำให้เราเป็นทุกข์ 
หลงอะไร...สิ่งนั้นทำให้เป็นทุกข์ 
หวงอะไร...สิ่งนั้นทำให้เป็นทุกข์ 
โกรธก็รู้ เกลียดก็รู้ ไม่ชอบก็รู้ 
ทำเรื่อยๆ อย่าต่อเติมความคิด 
ทำแบบสบายๆ

พระอาจารย์ชายแดน สีลสุทฺโธ

Image by Shad0wfall from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

ไม่แสวงหา ด้วยการยึดติด


อันผู้แสวงหาธรรมนั้น ย่อมไม่แสวงหา 
ด้วยการยึดติดในพระพุทธองค์ 
ยึดติดในพระธรรม ยึดติดในพระสงฆ์

夫求法者,不著佛求,
不著法求,不著眾求。

วิมลเกียรตินิทเทศสูตร《維摩詰經》

Image by matani from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


 

สมาธิที่ถูกต้องก็เกิดขึ้นเลย


จิตส่งออกนอก ไปรับรู้อารมณ์
ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ 
ใจก็คือลงไปคิด 
เราแค่มีสติรู้ทันเฉยๆ มีสติรู้ทัน 
รู้ด้วยใจที่เป็นกลาง 
ใจก็จะอยู่กับเนื้อกับตัว 
สมาธิที่ถูกต้องก็เกิดขึ้นเลย 
ไม่มีความจำเป็นจะต้องดึงไว้หรือรั้งไว้

อ.ประสาน พุทธกุลสมศิริ 

Image by Margaret8 from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

การทำสมาธิ ตามความเป็นจริง


ความรู้สึกตัวในปัจจุบัน ตามธรรมชาติ
นี่คือ การทำสมาธิ ตามความเป็นจริง
เมื่อความคิดเคลื่อนไหว 
ปล่อยให้มันเคลื่อนไหว 
และปลดปล่อยไป อย่างไร้ร่องรอย
เมื่อความคิดไม่เคลื่อนไหว 
ก็อย่าแสวงหา 
นี่คือ ความผ่องใส ที่ว่างเปล่า 
หรือ ความตระหนักรู้ ที่ว่างเปล่า

ท่านดุดจม รินโปเช

Image by ri1yad from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


 

ความสุขจึงขึ้นอยู่กับปัจจัยภายใน


คนเราส่วนใหญ่อยู่คนเดียวไม่เป็น 
พออยู่คนเดียว แว่บเดียวก็เหงา คิดถึงเพื่อน 
นี่คือความอ่อนแอของจิตใจ 
ความทุกข์ที่คนมักมองไม่เห็นว่าเป็นปัญหา 
คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา
.
ผู้ที่สามารถฝึกจิต
ให้มีสติตื่นรู้อยู่ในปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง
จะมีความรู้สึกว่า ไม่ขาดอะไรสักอย่าง 
จะอยู่คนเดียว อยู่น้อยคน 
อยู่มากคน ความรู้สึกนี้คงที่ 
จะคบเพื่อนก็มีความสุขได้ 
จะอยู่คนเดียวก็มีความสุขได้เหมือนกัน 
ความสุขจึงขึ้นอยู่กับปัจจัยภายใน 
ไม่ต้องพึ่งคนอื่นจึงมีความสุขได้ 
ความคล่องแคล่ว ความเป็นอิสระอย่างนี้ 
ไม่น่าปรารถนาหรือ

พระอาจารย์ชยสาโรภิกขุ

Image by adege from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

ความสุขและความสงบที่แท้


ในทันทีที่เราตระหนักรู้ได้ว่า 
ทุกสิ่งไม่เที่ยง เป็นอนิจจัง 
เราก็จะมีความสุขกับทุกสิ่งได้อย่างไม่มีปัญหา 
ตามความจริงแล้ว ความสุขและความสงบที่แท้
จะเกิดขึ้นได้ เมื่อเรามองเห็น
ธรรมชาติแห่งความไม่เที่ยงอย่างชัดเจนเท่านั้น

ท่านติช นัท ฮันห์

Once we recognize that all things are impermanent, 
we have no problem enjoying them. In fact, real peace and joy 
are only possible when we see clearly into the nature of impermanence.

-Thich Nhat Hanh

Image by adege from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


 

นั่นแหละจึงเรียกว่า อริยทรัพย์


สมบัติที่แท้จริง คือ การลอกเปลือก
ที่สำคัญว่า เป็นตนนี้ ออกไปจนหมดสิ้น
นั่นแหละจึงเรียกว่า อริยทรัพย์
เกิดจากการสั่งสมการเรียนรู้
กาย ใจ มาอย่างต่อเนื่อง
เป็นสมบัติที่ยิ่งกว่าเงินทอง
เพราะสิ่งนี้จะติดอยู่ในจิตใต้สำนึก
คอยกระตุ้นเตือน ให้หาทาง
ในการสละตัวตนทิ้งไป
เป็นสิ่งที่มีค่ายิ่งแล้วในสังสารวัฏ
เพราะเป็นสิ่งที่ตัด ลดทอน
หนทางสู่การเวียนตาย เวียนเกิด
ให้หดสั้นลง จนถึงวันที่ไม่เกิดอีกเลย

พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

Image by HeiKiwi from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

สักว่ารู้ว่าเห็น


"พวกเราจะได้ยินเรื่อยๆ ชอบสอนกัน 
สักว่ารู้ สักว่าเห็น มันสักว่าได้ 
ต่อเมื่อสติปัญญามันแก่กล้ามากแล้ว 
เห็นขันธ์เป็นไตรลักษณ์ นั่นล่ะถึงจะสักว่ารู้ว่าเห็นได้ 
สักว่ารู้ว่าเห็นก็คือรู้แล้วจบลงที่รู้ ไม่ปรุงต่อ 

ถ้ายังไม่รู้แจ้งเห็นจริงในขันธ์ 5 
พอรู้แล้วก็ปรุงต่อ ไม่ยอมสักว่ารู้ว่าเห็น 
กระทั่งแกล้งทำเป็นสักว่ารู้ว่าเห็น 
ก็คือความปรุงแต่งอีกอย่างหนึ่ง 
ทำเป็นว่าสักว่ารู้ว่าเห็น ก็คือมายา ปรุงแต่งต่อไปอีก
 
ฉะนั้นคำว่า สักว่ารู้ว่าเห็น เป็นคำสูง 
มันเกิดจากที่เราเจริญวิปัสสนา
จนเกิดวิปัสสนาปัญญาแก่กล้าขึ้นมา 
เห็นสังขารธรรม สังขตธรรม 
เห็นความปรุงแต่งทั้งหลายทั้งปวง 
ตั้งแต่รูปธรรม รูป เวทนา สัญญา 
สังขาร วิญญาณ คือตัวจิต 
ตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์ทั้งสิ้น 

ถ้าเห็นแจ้ง มันถึงจะสักว่ารู้ว่าเห็น ไม่ปรุงต่อ 
เมื่อสักว่ารู้ว่าเห็น ก็หมดความอยาก 
หมดความอยากก็หมดความยึดถือ 
หมดความดิ้นรนปรุงแต่ง 
แล้วก็พ้นจากความปรุงแต่งสิ้นเชิง 
เป็นอสังขตธรรมไป"

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช

Image by HeiKiwi from pixabay

เพจ อ่านธรรมคำสอน

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

ความรู้ไม่ได้มาจากความคิด


ผมคิดตั้ง 99 ครั้งและไม่ได้อะไรเลย
พอผมเลิกคิด และไปว่ายน้ำเงียบๆ
ความจริงก็ปรากฏแก่ผมตอนนั้น
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

I think 99 times and find nothing. I stop thinking, swim in silence, 
and the truth comes to me.

Albert Einstein

Image by janeb13 from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


 

ลักษณะของผู้ปฏิบัติธรรมเป็นอย่างไร?


ลักษณะของผู้ปฏิบัติธรรมเป็นอย่างไร?
โดย ท่าน อ.กำพล ทองบุญนุ่ม
.
"การปฏิบัติธรรมที่ถูกต้อง 
ผู้ปฏิบัติต้องกอรปด้วยความเพียร 
ถอนความพอใจไม่พอใจออกเสียได้
ด้วยการ "มีสติรู้เท่าทัน"
.
การปฏิบัติธรรม คือ การเจริญสติ 
เปรียบเหมือนการเดินทาง ระหว่างทาง
เราต้องประสบกับทั้งสิ่งที่น่าพึงพอใจและไม่พอใจ 
ผู้ปฏิบัติธรรม จึงต้องเป็นผู้รู้เท่าทันอารมณ์ที่ตนประสบ
.
-รู้จักใช้ชีวิตที่สอดคล้องกับธรรมชาติ
-มีชีวิตที่เรียบง่าย ถูกต้องดีงาม ไม่ใช่มักง่าย 
-"ความเย็น" เป็นอุปนิสัยของผู้ปฏิบัติธรรม 
  ใครอยู่ใกล้ก็มีแต่ความเย็นอกเย็นใจ
-รู้จักยืดหยุ่น ผ่อนสั้นผ่อนยาว รอได้ คอยได้
-เป็นผู้ไม่ถือสาหาความ รู้จักให้อภัย 
-ทำสิ่งที่มากให้น้อย 
-ทำสิ่งที่ใหญ่ให้เล็ก 
-ทำสิ่งที่ยากให้ง่าย
-ปล่อยวาง ไม่ยึดติดในสิ่งที่หลายทั้งปวง
-ไม่เป็นคนเจ้าทุกข์ คือ รู้จักยอมรับความจริง
-มีสติอยู่เสมอๆ ในทุกแห่ง ทุกสถานที่ ทุกเวลา
.
เราจะดูคนที่มีคุณธรรม มีธรรมะมากน้อย ก็ดูที่ "สติ"
นักปฏิบัติธรรมต้องมีนิสัย ไม่เพ่งโทษผู้อื่น 
เพราะทำให้ไม่มีความสุข 
ในทางตรงกันข้าม มักจะกลับมาดูใจตนเองแทน 
ไม่ทำตนแปลกแยกจนดูขัดเขินด้วยทิฎฐิมานะ 
ด้วยการสร้างภาพ นั่นมาจากใจที่ไม่เป็นอิสระ
เรายังพูดคุยกันอย่างปกติ แต่พูดคุยอย่างมีสติ 
ไม่หลงลืมตน 
.
นักปฏิบัติธรรม(ตัวจริง) 
-จะไม่วางฟอร์ม 
-มีเรื่องพูดก็พูด หมดธุระก็หยุด 
-พูดเมื่อจำเป็น แต่เป็นผู้ฟังอย่างมีสติ
-ใครพูดผิดเราก็ฟังได้ ใครพูดถูกเราก็ฟังได้"

จาก ฟังธรรมแล้วนำมาเล่า 

เครดิตคุณ  Nongahe Nishapa

Image by geralt from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

ตราบใดที่ยังสำคัญว่าจิตเป็นตน


หากเริ่มต้นที่ความเบื่อหน่ายในกาย  
ก็จะได้เพียงธรรมเครื่องสงบใจ  
อาจดำรงอยู่ในความสงบได้จวบจนสิ้นลมหายใจ  
แต่ความสิ้นการเวียนว่ายตายเกิดของเขา
ย่อมมิอาจเกิดขึ้นได้  
เพราะความสำคัญผิดว่าจิตเป็นตนยังดำรงอยู่
.  
พระบรมศาสดาทรงตรัส  
ความสำคัญผิดว่ากายเป็นตน  
ยังดีกว่าการสำคัญผิดว่าจิตเป็นตน  
เพราะกายเมื่อเวลาผ่านไป 
ย่อมเปลี่ยนแปลงเสื่อมโทรม 
ทำให้ระลึกได้ว่า กายไม่ใช่ของๆ เรา  
แต่จิตบ้าง มโนบ้าง วิญญาณบ้างนี้  
ยากนักที่หมู่สัตว์จะพึงทราบว่า 
ไม่เที่ยง แตกสลาย ไม่ใช่ตน  
.
ผู้ที่เห็นว่ากายไม่เที่ยง กายไม่ใช่ตนนั้น 
พอหาได้เป็นไปได้ไม่ยากนัก  
แต่ผู้จะเห็นว่าจิตไม่เที่ยง แตกสลาย 
ไม่ใช่ตนนั้น ยากนักแล  
ตราบใดที่ยังสำคัญว่าจิตเป็นตน 
ก็ยังมิอาจก้าวล่วงปุถุชนภูมิไปได้เลย  

ครูบาไตรภพ วัดป่าโคกเจริญธรรม

Image by DBU_DirektesSehen from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


.  


 

เรื่องร้าย.. เรื่องของเขา


เรื่องร้าย.. เรื่องของเขา
เรื่องสร้างบารมี.. เป็นเรื่องของเรา...
ใครร้ายมา.. ถ้าทนได้ ได้ "ขันติบารมี"
ใครร้ายมา.. มีเมตตาเขาได้ เราได้ "เมตตาบารมี"
เขาร้ายมา.. เราเฉยได้ ได้ "อุเบกขาบารมี"
เขาร้ายมา.. เราแก้ปัญหาตรงนี้เฉพาะหน้าได้
เราได้ "ปัญญาบารมี"
เขาร้ายมา.. เราระงับใจตัวเองได้
ไม่พูดร้าย ไม่ทำร้ายเขา 
เราได้ "ศีลบารมี"
เราจะทำร้ายเขาแล้ว.. แล้วหักห้ามใจได้
ได้อภัยทาน มี"ทานบารมี"
เป็นเครื่องฝึกตน

พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล

Image by hapr80 from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา





 

การที่จะเป็นอิสระจากความเจ็บปวด


การที่จะเป็นอิสระจากความเจ็บปวด 
ท่านจะต้องยอมรับกับความเจ็บปวดนั้น… 
อย่าหลีกเลี่ยงมัน ปล่อยให้มัน
เป็นไปตามธรรมชาติ 
ความเจ็บปวดก็คือความเจ็บปวด… นั่นคือความจริง 
การทนทุกข์ทรมานคือการที่ท่าน
ไม่ยอมรับความเจ็บปวด 
ท่านอ้างว่าชีวิตไม่ควรจะเจ็บปวด 
นั่นเป็นการปฏิเสธความจริง 
ท่านไม่ยอมรับชีวิตและไม่เข้าใจกฎของธรรมชาติ 
ความตายเป็นเรื่องของจิตใจ 
จิตใจที่กำลังตายไป 
ที่ใดก็ตามที่ไม่กลัวความตาย ที่นั่นย่อมไม่มีผู้ใดตาย…

ท่าน OSHO

Image by Alexas_Fotos from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา




 

วางใจเป็นกลาง ไม่ตีค่าไม่ตัดสิน


การดู การรู้ หรือการเห็นเฉยๆ นั้นมีพลังสามารถปลดเปลื้องอารมณ์ต่างๆ ออกจากใจได้ 
แต่เคล็ดลับอันนี้ผู้คนไม่ค่อยตระหนักเท่าไร 
.
ส่วนใหญ่จะพยายามกดข่ม ต่อต้าน เช่น เวลาเด็กกลัวก็บอกลูกว่าอย่ากลัวๆ พอเด็กโกรธก็บอกว่าอย่าโกรธๆ หรือแม้กระทั่งเวลาเกิดขึ้นกับตัวเองก็ทำอย่างนั้นเหมือนกัน อันนั้นเป็นวิธีหนึ่งแต่ไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด 
.
วิธีที่ดีกว่านั้นคือการมีสติดูมัน เห็นมัน รู้เฉยๆ โดยไม่ต้องทำอะไร 
.
การเจริญสติก็คือการฝึกจิตให้มีนิสัยที่จะรู้เฉยๆ เห็นอย่างที่มันเป็น ไม่ต้องทำอะไรกับมัน ไม่ต้องตีค่าว่าดีหรือชั่ว เพราะถ้าตีค่าว่าดีก็อยากจะยึดครอง ถ้าตีค่าว่าชั่วก็อยากจะผลักไส 
ให้เห็นอย่างที่มันเป็น ไม่ใช่เห็นตามที่เราอยากจะให้มันเป็น 
.
วางใจเป็นกลาง ไม่ตีค่าไม่ตัดสิน ช่วยให้เราเห็นสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง 
จนกระทั่งได้เห็นถึงสภาวะที่เป็นปรมัตถ์ของมัน 
.
การตัดสินอารมณ์ต่างๆ ว่าดีหรือชั่ว บวกหรือลบ อันนี้ยังเป็นสมมติอยู่ 
แต่ถ้าเราเห็นจนกระทั่งว่ามันเป็นแค่สภาวธรรมที่เกิดขึ้น 
.
ความโกรธกับความเมตตาที่จริงก็เป็นธรรมเหมือนกัน 
และก็ตกอยู่ภายใต้กฎไตรลักษณ์เหมือนกัน ความเมตตาที่เกิดขึ้นในใจก็สอนธรรมได้ 
ความโกรธที่เกิดขึ้นในใจก็สอนธรรมให้กับเราได้เช่นกัน เช่น สอนเรื่องไตรลักษณ์ 
สอนให้เห็นว่ามันไม่จีรัง มันไม่เที่ยง มันไม่ใช่ตัวตน 
.
การเจริญสติเมื่อถึงจุดหนึ่งก็ต้องยกระดับเป็นวิปัสสนา 
คือการเห็นสิ่งต่างๆ ตามที่เป็นจริง โดยไม่มีการให้ค่าไม่ตัดสินตามสมมติ
.
แต่ประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับเราก่อนถึงตรงนั้น คือทำให้เราอยู่เหนืออารมณ์ได้ 
ไม่ปล่อยให้มันมารังควานจิตใจ จนเกิดความรุ่มร้อน เกิดความรู้สึกบีบคั้น 
.
แค่เห็นมัน ดูมัน มันจะเกิดขึ้นก็ช่างมัน จะมองมันว่าเป็นเพื่อนก็ได้ 
เป็นเพื่อนหรือแขกที่มาเยี่ยม อยากจะเข้ามาก็เชิญ 
เราไม่ผลักไส เราไม่ทำอะไรกับเธอทั้งสิ้น 

พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล

Image by Mihail_hukuna from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


 

เมื่อจิตว่างจากความคิดเท่านั้น


เมื่อจิตว่างจากความคิดเท่านั้น 
ที่จะเกิดประสบการณ์ ความจริงได้ 
ความคิด ไม่ใช่ความจริง 
และความจริง เป็นสิ่งที่ต้องสัมผัสโดยตรง  
ซึ่งก็คือ จิต
เมื่อความคิด นิ่งสนิทแล้ว 
จะรู้ว่าความจริงคืออะไร

ท่านกฤษณมูรติ

Image by jggrz from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา





 

เบียดเบียนผู้อื่น ก็คือ เบียดเบียนตนเอง


"..เบียดเบียนผู้อื่น ก็คือ เบียดเบียนตนเอง 
ข่มผู้อื่น ก็ข่มตนนั่นแล 
อิจฉาผู้อื่น ก็อิจฉาตนนั่นแหละ
แล้วจะไปเหนือเขาด้วยความชั่วนั่นหรือ 
จะไปเหนือเขาด้วยอำนาจความชั่วนั่นหรือ 
เป็นแบบอย่างของเทวทัต มิใช่ทางพ้นทุกข์ 
เหยียบย่ำผู้อื่นก็คือเหยียบย่ำตัวเอง 
เหยียดหยามผู้อื่นคือเหยียดหยามตัวเอง 
ทำลายผู้อื่นคือทำลายตนเอง 
หาทางเจริญได้ยาก มิใช่ทางเจริญ 
จงรักษาใจ สังวรระวังใจตน 
ใจนั่นแลตัวสำคัญ 
จะจูงเราไปตกนรกก็ใจนั่นแล 
จะทำความชั่วก็ใจนั่นแล..."

หลวงปู่สิม พุทธาจาโร

Image by Alexas_Fotos from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา




 

เป็นเรื่องของธรรม


คิด และ ทำ... เป็นเรื่องของโลก
การรู้เห็นปราศจากการทำ... เป็นเรื่องของธรรม

การเดินทาง แห่งจิตวิญญาณ

Image by fotoblend from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

คนที่หลุดพ้น อยู่ได้ในทุกอารมณ์อย่างมีความสุข


ถ้าพูดว่า "เราปฏิบัติเพื่อพ้นโลก" 
เราก็ไม่ควรเลยที่จะ "เอาเรื่องโลกมาใส่ใจ"
.
หลายคนยังไม่เข้าใจในความหมายนี้ 
"จึงหนีโลกด้วยการหลบอยู่ในสมาธิ" หรือไม่ก็
"ยึดเอาอารมณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง
ที่หาได้ในโลก ว่าเป็นหนทางหลุดพ้น"
.
ความจริงแล้ว "เราไม่ต้องหนีโลกไปไหนหรอก
เพราะคนที่หลุดพ้น "เขาอยู่ได้ในทุกอารมณ์อย่างมีความสุข" 
.
"ส่วนอารมณ์โลกนี้ "เขามีไว้ให้กำหนดรู้
ให้เห็นตามความเป็นจริง แล้ววาง 
ไม่ใช่ไปยึดว่า "รู้อะไรเห็นอะไรแบบนั้น" 

จตฺตาลโยภิกฺขุ

Fb.Pom Moq

Image by Tienco85 from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา





 

การเห็นด้วยดวงตาธรรม


ทางโลก..จะมองสิ่งใดก็มองด้วยตาเนื้อ
จึงมองเห็นสิ่งต่างๆ ตามจริง..
แต่จริงของโลกหรือจริงของตาเนื้อนั้น
ยังมิพ้นสมมุติไปจากสมมุติ..
ส่วนการเห็นทางธรรม..
เป็นการมองด้วยญาณเห็นด้วยญาณ.. 
เห็นในสิ่งที่เหนือโลกเหนือสมมุติ 
การเห็นด้วยดวงตาธรรม
จึงอิสระจากทุกข์ในตัว 
อิสระจากโลกแม้อยู่ท่ามกลางโลกก็ตาม..

อิโตมิ จัง

Image by pixaguck from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

รู้ก็รักษาไม่ได้ หลงก็ห้ามไม่ได้


ฝึกกันนานนะ กว่าจะเข้าใจว่า
จริงๆ ไม่ได้ฝึกเพื่อให้รู้ตลอดเวลา
จริงๆ ไม่ได้ฝึกเพื่อไม่ให้หลง แต่ฝึกให้เห็นว่า
รู้ก็ไม่เที่ยง หลงก็ไม่เที่ยง
รู้ก็รักษาไม่ได้ หลงก็ห้ามไม่ได้
ตรงที่รู้ก็รักษาไม่ได้ หลงก็ห้ามไม่ได้
คือ อนัตตา

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช

Image by tenomgroup from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา