ความรู้สึกตัว เป็นทั้งมรรคทั้งผลอยู่ในตัว



ความรู้สึกตัว เป็นทั้งมรรคทั้งผลอยู่ในตัวเลย
ทุกครั้งที่มีความรู้สึกตัว คือมีสติ
คุณสมบัติของผู้มีสติ คือ รู้ ตื่น เบิกบาน
ในตัวสตินั้นมีสมาธิด้วย 
จิตตั้งมั่น สงบเป็นปรกติ เป็นสมาธิ
จิตก็ผ่อนคลาย มีความผ่อนคลาย จิตก็สบาย
เท่ากับมีมรรคผลอยู่ในความรู้สึกตัวเลย

อ.กำพล ทองบุญนุ่ม

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

เหตุแห่งความไม่ฟุ้งซ่าน คือรู้เท่าทันความฟุ้งซ่าน



จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

รู้ซื่อๆ รู้ตรงๆ มาจากคำว่า "อุชุปฏิปนฺโน"



รู้ซื่อๆ รู้ตรงๆ เนี่ย มาจากคำว่า.."อุชุปฏิปนฺโน"..
"อุชุ" แปลว่า ตรง
รู้ไปตรงๆ ปฏิบัติตรงๆ ด้วยความซื่อตรง
ซื่อตรงต่อคำสอน ไม่ต้องไปปั้นแต่ง
ไม่ต้องไปตั้งท่า ไม่ต้องไปกีดกัน..
ไม่ต้องกลัวว่า...ตัวเองเลว
ไม่ต้องกลัวว่า...ตัวเองไม่ได้เรื่อง มันไม่ได้เรื่องอยู่แล้ว!..
ถ้าเราไม่ยอมรับ เราก็จะไม่เห็นของจริง
และไม่พัฒนาได้จริง
การพัฒนาจะเกิดขึ้นเมื่อรู้ว่า...มีความผิด
พอรู้สิ่งผิด มันจึงมีการ "รู้" ทันที..
"รู้" ปุ๊บ! ตอนนั้น...ถูกทันที
พอถูกทันที! ก็เริ่มมีสิ่งดีแล้ว ใช่มั้ย?

พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



เมื่ออ่านโลกออกแล้วก็ไม่ถูกหลอก




การมีชีวิตอยู่ในโลก จะต้องอยู่อย่างมีอิสระเสรี
ให้มากที่สุดที่จะมากได้ โดยไม่ต้องไปหลงเหยื่อโลกทุกๆ ชนิด 
สำหรับผู้มีสติปัญญาแล้วจะต้องอ่านโลกออก 
เมื่ออ่านโลกออกแล้วก็ไม่ถูกหลอกนั่นเอง 
ไม่ว่าใครถ้ายังอ่านโลกไม่ออก ยังเห็นว่าเที่ยง สุข มีตัวตนแล้ว ...
ก็จะถูกดึงไปสู่ความทุกข์นั่นเอง 
ถ้าอยู่ในโลกโดยไม่ติดโลก ไม่หลงโลก จะเป็นชีวิตที่มีอิสระได้..


ท่าน ก.เขาสวนหลวง

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


กายนี้ ใจนี้ ไม่ใช่ของใคร



จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

เมื่อมีสติ ใจจะตื่นจากอวิชชา



มื่อเรามีสติประจำใจของตนอยู่ 
ไม่ปล่อยใจของตนไปเกี่ยวข้องในสัญญาอารมณ์ต่างๆ ภายนอก 
สตินั้นจะเปล่งกำลังแสงสว่างให้เกิดขึ้น คือ วิชชา 
เมื่อวิชาเกิดขึ้นแล้วในตนของตนเอง 
จิตของผู้นั้นก็จะสว่างไสว 
ใจของบุคคลนั้น ก็จะตื่นจากความหลับคือ อวิชชา 
บุคคลใดทำได้เช่นนี้ ก็ชื่อว่าถึงสรณะอันเกษมในใจของตนเอง 
คือ ถึงคุณธรรมในใจ รู้เอง เห็นเอง 
เป็นเหตุให้ถึงอริยธรรมคือโลกุตระ

ท่านพ่อลี ธัมมธโร 

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



จงให้ทานเพื่อสละ



จงให้ทานเพื่อสละ 
อย่าให้ทานเพื่อครอบครอง
การให้ทานเพื่อให้ได้ “หัวใจดวงที่คิดสละ”
คือการให้ที่สูงสุด
เป็นการให้ที่พระอริยเจ้าทั้งปวงสรรเสริญ
เพราะเป็นการให้ที่ปูทางไปสู่นิพพาน
เนื่องจากความวิมุตติหลุดพ้น
คือการสละ การละ การวาง
การหยุดและการพอ

พระอาจารย์ชุมพล พลปญฺโญ

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


ขอให้รู้เท่าทันความรู้สึก



จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

ดับด้วย "การไม่นึกว่าจะให้มันดับ"



ราคะก็เป็นไฟ โทสะก็เป็นไฟ โมหะก็เป็นไฟ 
มันให้ความร้อน ให้ความเดือดร้อนในจิตใจ
ก็ต้องดับด้วย "การไม่นึกว่าจะให้มันดับ" 
คือดับด้วยการรู้อย่างปรกติ รู้อย่างปล่อยวาง 
สังเกตเข้าไปเฉยๆ เขาเกิด เขาจาง เขาคลาย ..
การกำหนดอย่างนี้ก็เรียกว่าเป็นการดูสภาพธรรม 
เป็นธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน 
หรือว่าเป็นจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน 
ดูจิตใจของตนเองที่มันจะมีกิเลส สภาพธรรมต่าง ๆ เข้ามา..อยู่ด้วยกัน 

พระอาจารย์สุรศักดิ์ เขมรังสี

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

ฝึกวางด้วยการกลับมารู้สึกตัว



พระพุทธองค์จึงตรัสว่า เพราะเราปล่อยวาง เราจึงหลุดพ้น..
ตราบใดก็ตามถ้าไม่ปล่อยวางจากความรู้สึกจากอารมณ์นั้นๆ 
เรายังสำคัญหมายกับสิ่งเหล่านั้นอยู่ 
ตราบนั้นเรายังต้องเวียนว่าย..
ฝึกวางด้วยการกลับมารู้สึกตัว
พอเรากลับมารู้สึกตัวปุ๊บ มันจะหลุดทันทีในตัวของมันเอง
จิตเราจะเริ่มมองเห็นหนทางที่จะหลุดพ้นจากอารมณ์ 
ทุกอารมณ์ ทุกความรู้สึก ทุกความนึกคิด 
นั้นแหละคือสิ่งสำคัญมากๆ 
เพราะมันจะทำให้เราไม่เป็นทุกข์

พระอาจารย์ครรชิต อกิญจโน

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


จิตผู้รู้เป็นเพียงสภาพรู้



จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

การพิจารณาธรรม รู้ธรรม เห็นธรรม หมายถึงเห็นความคิด



การพิจารณาธรรม รู้ธรรม เห็นธรรมนี้ ก็หมายถึง
เห็นความคิด รู้ความคิดของตนนั่นเอง..
ผู้ที่ปฏิบัติรู้เท่าไม่ถึงการณ์ คิดว่าจิตของตัวเองฟุ้งซ่าน 
ก็พยายามบังคับจิตของตนเองอยู่อย่างนั้นแหละ บังคับให้มันหยุดคิด ..
ไม่คิดก็กลายเป็นจิตที่โง่ คำว่าสมาธิอบรมปัญญาก็ไม่เกิด 
เพราะฉะนั้น อย่าพยายามไปบังคับจิตให้หยุดคิด 
หน้าที่ของเราคือทำสติตามรู้ความคิดไป..

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


นิพพานก็อยู่ในทุกข์



เราหนีทุกข์
เรากลัวทุกข์....เราไม่กล้าเผชิญทุกข์
แต่เราต้องการนิพพาน
นิพพานก็อยู่ในทุกข์นั้น
นิโรธก็อยู่ในทุกข์นั้น
สมุทัยก็อยู่ในทุกข์นั้น
มรรคก็อยู่ในทุกข์นั้น
มันไม่ไปไหนเลย...มันอยู่ในที่เดียวกัน
และถ้าเราทิ้งทุกข์กับสมุทัยไปแล้ว
เราจะเอามรรคกับนิโรธมาจากไหน

ครูบาเจ้าเพชร วชิรมโน

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

เพียงแค่รู้ อยู่ที่รู้



จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

การปฏิบัติธรรม คืออย่าเข้าไปในความคิด



ถ้าเรามีความรู้สึกตัว 
สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ มันก็คืออาการต่างๆ ของกายและจิตใจ
ความรู้สึกตัวจะทำหน้าที่เป็น "ผู้เห็น"
ได้พบเห็นอาการเหล่านี้ และได้กระทำให้แจ้งในสิ่งเหล่านี้ได้แล้ว 
เห็นแล้วผ่่านไป หลุดไป พ้นไป ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร 
มันเป็นธรรมชาติ ธรรมดา เป็นเช่่นนั้นเอง
ถ้าเราเข้าไปในความคิด ไปเป็น "ผู้เป็น" ก็ตัน ทางตัน สุดโต่ง
การปฏิบัติธรรม คืออย่าเข้าไปในความคิด 
อย่าให้ความคิดพาไป ให้ความรู้สึกตัวพาไป นำไป 
ฝึกหัดให้สตินำพาพูดคิดและกระทำ

หลวงพ่อคำเขียน สุวัณโณ

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา






การออกจากปัญหาคือออกจากการหลงคิด




การออกจากปัญหา จึงไม่ใช่การตัดสินว่าใครถูกหรือใครผิด 
แต่ออกมาจากการ “หลงคิด” 
ที่ไปยึดติดจับรูปธรรมเหล่านั้นมาปรุงแต่งต่างหาก 
ไม่หลงยึด แม้แต่คำว่า “จิต”

พระอาจารย์อำนาจ โอภาโส


ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


อย่าไปมองหามิจฉาทิฏฐิที่คนอื่น



จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

ทุกข์เป็นเพียงความรู้สึกคิดนึก



เมื่อเอาความทุกข์นั้นตั้งต้น 
แล้วสาวหาเหตุของทุกข์นั้น 
จึงทราบว่า ทุกอย่างเป็นเพียงความรู้สึกคิดนึก
ปรุงแต่งขึ้นมาให้สับสนวุ่นวายอลวนไม่มีที่สิ้นสุด 
ไม่ใช่ของจริงเป็นเพียงสิ่งสมมุติ 
..ยอมรับความจริงซะก็หมดเรื่อง 
ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันคือละครมันหลอกเราทุกอย่าง 
ทั้งทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ให้ลุ่มหลงวุ่นวายไปกับมัน 
ให้เจริญสติให้มาก 
ทั้งอิริยาบถและมองดูความรู้สึกคิดนึกปรุงแต่งของเรา 
เมื่อมีสติกำกับอยู่ไม่พลาดจนชำนิชำนาญ 
นั้นแหละคือตัวสมาธิ ที่แทรกอยู่ในตัวของมันเอง
เหมือนขบเกลียวเชือก..ผสมผสานกลมกลืนกัน 
สุดท้ายจะเห็นเข้าไปข้างในเองว่า 
ไอ้ตัวสมมุติมาหลอกกูอยู่ตั้งนมนานกาเล

หลวงพ่อประสิทธิ์ ถาวโร

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา




ชีวิตที่รู้คิด เป็นประโยชน์แก่โลก



จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

สติความฉลาดที่เป็นเรื่องของกิเลส



คนเราที่มีทิฏฐิมานะ 
มีความยึดมั่นถือมั่นในตัวตน 
ถ้าไม่มีศีลรองรับนะ ไม่มีสมาธิเป็นท่ามกลางนะ
สติความฉลาดเป็นเรื่องของกิเลส 
บางทีคิดพูดทำ ตามกิเลสหมด
ถ้ามีศีล ๕ เป็นพื้นฐานนะ 
หรือศีล ๘ ศีล ๑๐ ศีล ๒๒๗ เป็นพื้นฐาน
ทำสมาธิเป็นท่ามกลาง 
มันจะเปลี่ยนเป็นสติปัญญาแล้ว 
เพราะว่าความเห็นชอบมันเกิดขึ้น

พระอาจารย์อัครเดช (ตั๋น) ถิรจิตโต

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา




ผู้ที่จะวางจิตเป็นกลางได้น ต้องอาศัยสติสัมปชัญญะ




อุเบกขา คือการวางกำลังใจ 
ไม่ให้ยินดียินร้ายกับสิ่งต่างๆที่เข้ามากระทบ 
วางใจเป็นกลางๆ เพราะทุกๆสิ่งนั้นมันเกิดขึ้น เดี๋ยวก็จะดับไป 
ไม่มีสิ่งไรตั้งอยู่โดยถาวรเลย 
ไม่ดีใจมากนักในยามประสบกับสิ่งไรๆ ที่พึงปรารถนา ...
เนื่องจาก หากเราปล่อยใจให้ดีใจมาก 
ในยามสิ่งๆนั้นต้องพลัดพรากจากเราไป 
เราจะทุกข์ใจมาก ยิ่งรักมาก ภาคภูมิใจมาก ยิ่งทุกข์มาก 
จึงควรวางใจเป็นกลางๆ เสีย จึงจะไม่ผิดหวัง
สติและสัมปชัญญะ จำต้องมี 
เพราะผู้ที่จะวางจิตเป็นกลางได้นั้น 
ต้องอาศัยสติและสัมปชัญญะ รู้อยู่ในปัจจุบันขณะ 
จึงจะสามารถรักษาอารมณ์ใจให้เป็นกลางได้


ครูบาไตรภพ วัดป่าโคกเจริญธรรม

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


สติสัมปชัญญะคือพื้นฐานของการรู้ธรรม



จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

อย่า “พยายาม” ที่จะไปถึงซึ่งความรู้แจ้ง



อย่า “พยายาม” ที่จะไปถึงซึ่งความรู้แจ้ง 
เพราะไม่เช่นนั้นก็จะอยู่ที่เดิมตลอดไป

พระอาจารย์สุมโนภิกขุ 

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



ถ้าอยากปล่อยวาง อย่าอ้างเหตุผล



ถ้าอยากปล่อยวาง อย่าอ้างเหตุผล 
ต้องอยู่เหนือเหตุเหนือผล วางเหตุผลไปก่อน
เพราะถ้าเรายึดมั่นถือมั่นว่า เขาทำแบบนั้นไม่ดี 
ทำแบบนี้ไม่ถูก เขาทำร้ายเรา 
ก็ไม่มีวันเลย ที่เราจะอภัยให้เขาได้
แต่ถ้าเข้าใจหลักที่ว่า กรรมใครกรรมมัน ใครทำใครได้
เราทุกคนเป็นทายาทของกรรมที่เราทำไว้เอง
เราไม่ต้องโกรธ ต้องเกลียดใครหรอก
ส่วนหนึ่งที่เราโดนแบบนี้ นี่ก็ผลของกรรมเก่าเราเอง

หลวงปู่ชา สุภัทโท

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


รู้ต่อเนื่อง จิตจะตั้งมั่น



จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

ความสุขเป็นเพียงผลพลอยได้ของความสันโดษ



ความสุขเป็นเพียงผลพลอยได้ของความสันโดษ
มันเป็นผลที่พ่วงมาในตัวเอง พอเราสันโดษเราก็สุข
เพราะสันโดษก็คือพอใจ...และช่วยให้ใจสงบไม่กระวนกระวายเร่าร้อน
พอเราสุขง่าย ด้วยต้องการวัตถุน้อย
เราก็พร้อมที่จะเอาใจมาอยู่ในกระบวนการปฏิบัติ

พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต)

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

ความรู้สึกตัวทำให้ลาออกจากทุกข์




ความรู้สึกตัวนี้ช่วยจัดสรรชีวิต
ของผมให้ดีขึ้นทุกวัน 
เป็นสุดยอดของธรรมทั้งหลายทั้งปวง 
เป็นที่พึ่งอันประเสริฐ
และเป็นหลักชีวิตให้กับผม 
ความพิการทำให้ผมเป็นทุกข์ได้ฉันใด 
ความรู้สึกตัวก็สามารถทำให้ผม
ลาออกจากความทุกข์ได้ฉันนั้น


อ.กำพล ทองบุญนุ่ม

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

เริ่มสั่งสมความรู้สึกตัว ก่อนจะสาย



จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

นั่งเฉย ๆ อย่างมีสติ ก็เป็นการทำบุญแล้ว



อย่าคิดว่าการทำบุญเป็นเรื่องยากลำบาก
หากเรานั่งเฉย ๆ อย่างมีสติ
ก็เป็นการทำบุญแล้ว

ดร.สนอง วรอุไร

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

นิโรธความดับทุกข์ ก็ดับอารมณ์นั่นเอง



สุญญตสมาธิ 
จิตก็ตั้งมั่นอยู่กับความว่างเรื่อยๆ ไป  
รู้อารมณ์ไม่รับอารมณ์ ว่างจากอารมณ์ 
เห็นอนิจจังอารมณ์ รู้อนัตตา 
อารมณ์ว่างเปล่า 
อารมณ์เป็นสุญญตวิโมกข์ 
หลุดพ้นสูญเพราะไม่มีอารมณ์ 
อนาลโยไม่มีอาลัย ไม่มาอาลัย 
ไม่มีอาวรณ์กับอารมณ์ทั้งปวง 
นิโรธความดับทุกข์
ก็ดับอารมณ์นั่นเอง

พระอาจารย์นพพร อาทิจฺจวํโส

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


จิตรู้ที่เป็นอิสระจากอารมณ์ คือสัมมาสมาธิ



จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

ความคิดปรุงแต่ง เป็นต้นตอของบาปตัวจริง




คนเราไม่มีสติสัมปชัญญะหรือ?

มีเหมือนกันทุกคน แต่มันเป็นสติที่ไม่มีกำลัง
เพราะกำลังของสติสัมปชัญญะ ถูกตัวคิดตัวสังขาร
ดูดไปใช้เกือบหมดในแต่ละวัน
เราจึงต้องมากระตุ้นความรู้สึกตัวทุกรูปแบบ
เพื่อให้เกิดพลังสติสัมปชัญญะมากพอ
จนสามารถสร้างพลังต่อรองกับความคิดได้..
เพราะความคิดปรุงแต่ง เป็นต้นตอของบาปตัวจริง
ถ้าคิดจะล้างบาป ก็ล้างความคิดปรุงแต่งเท่านั้นแหละ
ไม่ยากอะไรเลย

หลวงพ่อมหาดิเรก พุทธยานันโท


ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา

รู้สึกกาย ช่วยให้ใจรู้ปัจจุบัน



จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา