มีสติบ้าง หลงบ้าง นั่นแหละดีแล้ว


..การรู้ การมีสติสัมปชัญญะ
ก็ไม่ใช่ตัวเราเหมือนกัน
เป็นของไม่เที่ยง บังคับให้มันเกิดก็ไม่ได้
อยากจะมีสติทั้งวัน
ปกติก็จะไม่มีหรอก ส่วนใหญ่จะหลงซะมากกว่า
การมีสติบ้าง หลงบ้าง นั่นแหละดีแล้ว
จะได้รู้ว่ามันเป็นอนัตตา บังคับไม่ได้
ถ้ามีสติตลอดได้ สงสัยเข้าใจผิด
เกิดอัตตาขึ้นมาอีกตัวว่า เราเก่งนะ
เราสามารถบังคับสติได้
กลายเป็นอย่างนั้นไปอีก

อ.สุภีร์ ทุมทอง

Image by Adriansart from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา




 

ของคู่


…ของคู่ รัก-ชัง ดี -ชั่ว บุญ -บาป 
ความผูกพัน -ความไม่ใยดี ฯลฯ 
เรามักจะเกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆ 
โดยยึดถือความรู้สึกส่วนตัวเป็นหลัก 
ก็ไม่พ้นจากของคู่ไปได้เลย 
กิเลสเป็นตัวชักนำให้ตกอยู่
ในความครอบงำของของคู่ 
เมื่อไรที่ปัญญาคมกล้าพอ
ที่จะตัดความยึดถือในอารมณ์ ความรู้สึกต่างๆ ได้ 
ก็พ้นจากความครอบงำของของสิ่งนั้นได้ 
จิตก็จะเป็นอิสระ 
และเห็นตามความจริงว่า 
สิ่งทั้งหลายทั้งปวงนั้น 
ก็ล้วนแต่เป็นเพียงสภาวธรรม 
ที่เกิดขึ้นแล้วก็ดับไปเท่านั้น 
ทั้งสิ่งที่พบเห็นจากภายนอก
และความรู้สึกจากภายใน 

อุบาสิกาวัลย์ นานายน

Image by pasja1000 from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



หลุดพ้นเองทุกขณะ


ไม่เพิ่มความรู้ใดๆ แต่ให้คลายจากสิ่งยึดถือ...
ไม่ต้องพยายามหยุดคิด
แต่ให้ความคิด
"หยุด" ด้วยตัวมันเองอยู่แล้ว
เมื่อไม่ต้องปฏิเสธ หรือ ยอมรับ
สิ่งที่เกิดในจิต หรือ ทุกสภาวะอารมณ์
เมื่อนั้น
เธอได้หลุดพ้นในสิ่งที่พันธนาการ
ได้เองอยู่แล้ว
ทุกขณะ สลายตัวมันเองทุกขณะๆ 
หลุดพ้นเองทุกขณะ

พระอาจารย์ปกรณ์นันทน์ ฐิตธัมโม

Image by HG-Fotografie from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


 

ฝึกให้รู้เรื่องของจิตเสียแต่ยังเป็นคน


ความห่วงใยของจิต
เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดอุปสรรคได้อย่างมากมาย 
เวลาจะพรากจากขันธ์ 
นักปราชญ์ท่านจึงสอนให้ระวังจิต 
ไม่ให้เป็นอารมณ์ห่วงใยกับสิ่งใดๆทั้งสิ้น 
กลัวจิตจะประหวัดกับสิ่งหนึ่งสิ่งใด 
ซึ่งเป็นที่รักบ้าง เป็นอารมณ์ขุ่นมัวในใจบ้าง
เช่น ความโกรธแค้นให้กับผู้หนึ่งผู้ใด
.
ขณะจิตจะออกจากร่าง 
เป็นขณะที่สำคัญมาก 
อาจไปเกาะเอาอารมณ์ที่ไม่ดีเข้า 
แล้วก็กลับมาเป็นไฟเผาตัว 
จากนั้นก็ไปเกิดในทุคติภพ 
มีนรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน อย่างใดอย่างหนึ่ง 
ซึ่งล้วนเป็นภพกำเนิดที่ไม่พึงปรารถนา 
และให้ความทุกข์ร้อนตลอดภพนั้นๆ
ฉะนั้นการฝึกอบรมจิต
เมื่ออยู่ในฐานะที่ควรทำได้ จึงควรสนใจอย่างยิ่ง 
.
ฝึกให้รู้เรื่องของจิตเสียแต่ยังเป็นคนที่รู้ๆ เห็นๆ
เรื่องของตนอยู่ทุกขณะนี้ เป็นความชอบแท้
เมื่อทราบว่ายังบกพร่องส่วนใด
จะได้รีบแก้ไขดัดแปลงเสีย 
เวลาเข้าตาจนแล้ว จะได้มีทางรักษาตัวทันกับเหตุการณ์ 
ไม่ต้องวิตกวิจารณ์ว่าจะเสียท่าเสียที
ให้ความชั่วทั้งหลาย เข้ามาเหยียบย่ำทำลายได้
.
ยิ่งฝึกให้ขาดความสืบต่อกับอารมณ์ 
ดีชั่วทั้งหลายอย่างประจักษ์แล้ว 
ยิ่งประเสริฐเลิศโลก ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือน

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

Image by KELLEPICS from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา




 

นาทีทองเมื่อล้มตัวลงนอน


นาทีทองช่วงหนึ่ง คือ เมื่อล้มตัวลงนอน
น้อยนักที่จะหลับทันที
...มักจะนอนคิดอะไรไปเรื่อย
ขอให้ใช้ช่วงนี้ตามดูจิต
ดูความคิดไปเรื่อยๆ 
เกิด ดับ เกิด ดับ
จิตจะได้บริหารสติ 
มีกำลังสติเพิ่มเอง...จนหลับไปเอง
สมาธิจะเกิดตอนหลับได้..จิตสว่างแจ่มใส 
เดินจิตพิจารณาต่อเอง
ปัญหา เรื่องขัดข้องที่ค้างคาใจ 
จะมีคำตอบให้..ตอนนอนหลับ

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย

Image by Cdd20 from pixabay 

Cr.Fb.Achara Klinsuwan

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

อย่าค้นหาสวรรค์และนรกในอนาคต




อย่าค้นหาสวรรค์และนรกในอนาคต
ทั้งคู่อยู่ในปัจจุบันเดี๋ยวนี้
ทุกขณะที่เราทำด้วยความรัก
โดยไม่คาดหวัง ไม่คำนึงกำไรขาดทุน
ไม่ต่อรอง เราอยู่ในสวรรค์
เมื่อไหร่ก็ตามที่เราต่อสู้ เกลียด
เราอยู่ในนรก

Don’t search for heaven 
and hell in the future. 
Both are now present. 
Whenever we manage to love 
without expectations, calculations, 
negotiations, we are indeed in heaven. 
Whenever we fight, hate, 
we are in hell.

~ Shams Tabrizi 

Image by Foto_und_Pinsel from pixabay 

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

การเรียนรู้ทางธรรมจึงต่างจากทางโลก


การเรียนรู้ทางธรรมจึงต่างจากทางโลกอย่างสิ้นเชิง 
เรียนรู้ทางโลกต้องใช้ความคิดตลอด
ต้องใช้ความจำตลอด
เพราะเราต้องการข้อมูลเหล่านั้น
เอามาใช้กับทางโลก 
แต่ในทางธรรมนั้นไม่จำเป็นต้องจำ
เราไม่จำเป็นต้องคิด
และเราไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย 
แค่เอารู้ไปฝากและปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรู้
ให้เขาเรียนรู้ไป
การที่เราไม่ได้จำไม่ได้คิดนั้น
เราจะได้ข้อมูลใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน 
ข้อมูลนี้เกิดขึ้นในใจภายในกายตลอดเวลา

พระอาจารย์ชานนท์ ชยนนฺโท

Image by FelixMittermeier from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

ชนเหล่านั้น จักเป็นผู้พ้นทุกข์


ก็ชนใดทำจิตของตน 
ไม่ให้มีที่ภายใน และที่ภายนอก 
ไม่ให้มีที่ล่วงมาแล้ว และที่ยังมาไม่ถึง 
ไม่ให้มีทั้งที่กำลังเป็นอยู่ 
ไม่ให้ตามเห็นอารมณ์ต่างๆ อันมาติดต้อง 
ให้ว่างเปล่าจากปวงสังขตะที่เกิดดับ 
ชนเหล่านั้น จักเป็นผู้พ้นทุกข์ 
เข้าถึงฝั่ง ล่วงวังวนเป็นที่ตั้งแห่งความตาย 
อันบุคคลข้ามได้แสนยากนั้นฯ  

หลวงปู่ดาบส สุมโน

Image by KELLEPICS from pixabay 

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

พุทธแท้ คือ การตระหนักรู้


ความที่เรียกได้ว่าเป็นพุทธแท้นั้น
คือ การตระหนักรู้
การกลับไปหาธรรมชาติธรรมดา
ของกาย ของจิต แล้วเรียนรู้ ยอมรับความจริง
จนสามารถคลายความยึดถือว่าเราของเรา
แค่นี้เองความเป็นพุทธ
ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องขลัง เรื่องศักดิ์สิทธิ์อะไร
เป็นเพียงการลืมตาตื่นขึ้นจากความหลง
ในความคิดปรุงแต่ง
เพื่อมารู้เห็นตามจริงเท่านั้นเอง

พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

Image by pieonane from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


 

สมควรสลายความปรุงแต่ง


ในเมื่อธรรมชาติเดิมแท้ของจิตใจ
ว่างจากการปรุงแต่งมาก่อน
เมื่อใดเห็นความเผลอปรุงแต่งเป็นอัตตาตัวตน
สมควรสลายความปรุงแต่งเหล่านั้นทิ้งทุกครั้ง

พระอาจารย์อำนาจ โอภาโส

Image by elbetiko from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


 

การเดินถูกต้องตามทางสัมมาทิฏฐิ


ทุกข์นั้นเกิดมาแต่เหตุที่ไม่พอใจ
สุขนั้นเกิดมาแต่เหตุที่พอใจ
สิ่งที่พอใจและไม่พอใจก็เกิดมาแต่เหตุ
เมื่อไม่รู้เท่าทันเหตุ
เหตุจะทำให้เป็นสุขก็ได้ จะทำให้เป็นทุกข์ก็ได้
จงรักษาอัพยากฤตธรรม คือความเป็นกลางนี้ไว้
อย่าเหม่อ เผลอไป
อย่าเมาต่อสุข อย่าเมาต่อทุกข์
นี่คือการเดินถูกต้องตามทางสัมมาทิฏฐิ
ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

หลวงปู่ทา จารุธัมโม

Image by Dreamy_Photos from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


 

จิตรู้เอง ปล่อยวางเอง



ถ้าคุณเห็นทุกข์  คุณจะเห็นโลก
ถ้าคุณรู้จักทุกข์  คุณจะรู้จักโลก 
ถ้าคุณหนีทุกข์  คุณจะหนีโลก
ถ้าคุณอยู่เหนือทุกข์  คุณจะอยู่เหนือโลก
.....จะรู้จักทุกข์ได้  เริ่มจากฝึกจิตตนเอง     
การฝึกจิตก็คือการรู้อาการของกายใจ
ที่กำลังเป็นไปอยู่ในปัจจุบันขณะ  
จนกว่าจิตของผู้ฝึกจะประจักษ์แจ้งว่า  
โลกมันเป็นของมันเช่นนั้นเอง.....
จิตรู้เอง ปล่อยวางเอง...แค่รู้ เท่านั้น

พระอาจารย์มหาวิเชียร ชินวังโส

Image by Mammiya from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา




 


 

ไม่ถูกสิ่งทั้งหลายเบียดเบียนให้เป็นทุกข์


ผู้ใดเห็นความจริงของสิ่งทั้งปวง
ว่าทุกสิ่งเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตาดังนี้แล้ว 
ไม่ยึดถือในความเป็นตัวตน 
หรือเป็นของของตน 
คนนั้นก็รอดตัวไปได้
คือไม่ถูกสิ่งทั้งหลายเหล่านั้นเบียดเบียนให้เป็นทุกข์ 
เรียกว่า เป็นผู้ที่ลืมตา
เข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งทั้งหลายทั้งปวง 
จนสิ่งทั้งหลายทั้งปวงไม่เกิดเป็นพิษเป็นสงขึ้นมาได้
ก่อนหน้าแต่นี้เป็นปุถุชนคนโง่คนหลง
ไม่รู้จักสิ่งทั้งปวง เข้าไปเกี่ยวข้อง
กับสิ่งทั้งปวงในลักษณะที่ถูกสิ่งทั้งปวงนั้น
ตบหน้าเอาบ้าง ทิ่มแทงเอาบ้าง 
เผารนเอาบ้าง ตามประสาของคนโง่

ท่านพุทธทาสภิกขุ

Photo by Hans Isaacson on Unsplash

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


 

ปัญหามิใช่ปัญหา


99% ของความทุกข์ร้อน
เกิดขึ้นในหัวของคุณ
โดยตัวคุณ และความคิดคุณเอง
มีเพียง 1% เท่านั้นที่เกิดขึ้น
จากความเป็นจริง สิ่งที่เกิดขึ้นจริง
และผลของสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น
ส่วนใหญ่แล้ว
ปัญหามิใช่ปัญหา
แต่วิธีที่คุณคิดถึงปัญหานั้นต่างหาก
ที่เป็นปัญหา

นิรนาม
ที่มา: เพจ Power of Positivity

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


 

อยู่ที่ผู้ปฏิบัติตาม


พระพุทธเจ้านั้นไม่ได้อยู่ที่วัด 
ไม่ได้อยู่ที่พระพุทธรูป
พระธรรมคำสอน
ไม่ได้อยู่ที่ตู้พระไตรปิฎก 
พระสงฆ์ไม่ได้อยู่ที่วัด 
คุณธรรมของพระพุทธเจ้า 
คุณธรรมของพระสงฆ์นั้น
อยู่ที่ผู้ปฏิบัติตาม 
ผู้ใดปฏิบัติตามคนนั้นชื่อว่า
เข้าถึงพระรัตนตรัย 
เข้าถึงวัด เข้าถึงพระธรรม 
เข้าถึงศาสนาได้

หลวงปู่ขาว อนาลโย

Image by sasint from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

เพราะมองแต่ความมี จึงแลไม่เห็นความว่าง


เมื่อคนทั้งหลายมองดูภาพจักรวาล
พวกเขาจะสนใจแต่ดวงดาว แสงสี 
การเคลื่อนไหว และการเปลี่ยนแปลงของมัน
จะมีสักกี่คนที่เพิกต่อเหล่าหมู่ดาว 
แล้วมองลงสู่ความเวิ้งว้างที่เป็นที่ต้้ง
ที่อาศัยของหมู่ดวงดาวกันหนอ?
เพราะไปสนใจแต่ปรากฎการณ์และความมี... 
จึงไม่อาจพบแก่น และความมีที่ไม่มี
อันเป็นพื้นที่รองรับการตั้งอยู่แห่งหมู่ดาว

การเดินทาง แห่งจิตวิญญาณ

Image by Pexels from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

ความยึดมั่นถือมั่น คือ บ่วง


...ความยึดมั่นถือมั่น คือ บ่วง
แม้แต่ความยึดมั่น
ในเทพเทวะที่เรานับถือ
หรือยึดมั่นในธรรมะก็ตาม
คนรวยยึดมั่นในทองคำ
คนจนยึดมั่นในเข็มหรือด้าย
ต่างก็คือ
ความยึดมั่นเสมอกัน
จงละความยึดมั่น
อันเป็นสิ่งปิดกั้น
หนทางสู่ความหลุดพ้น

ท่านคุรุ รินโปเช

Image by nimrodins from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

หัวใจหลักในการปฏิบัติธรรม


หัวใจหลักในการปฏิบัติธรรม คือ 
รู้สึกตัว หรือรู้เนื้อรู้ตัว
พ้นออกจากโลกของความคิดปรุงแต่ง 
ไม่ตามเข้าไปในความคิด 
ไม่ให้ความคิดหลอกเรา
แล้วก็ รู้จักสภาพจิตใจที่มันเป็นปกติ 
ซึ่งเป็นสภาพที่อยู่กับเราเสมอ 
อยู่กับเราตลอดเวลา สภาพเดิมแท้…
สภาพไร้กิเลส สภาพไร้ราคะ 
ไร้โทสะ ไร้โมหะ สภาพบริสุทธิ์…
เราทำแค่นี้แหละ
ความเป็นพุทธะ…ความเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น 
ผู้เบิกบาน มันเบ่งบานออกมาเอง 
มันทำงานของมันเอง เป็นธรรมชาติ

Camouflage

Image by Pexels from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


 

พึงละแม้ความยึดถือในธรรม .


ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราแสดงธรรมมีอุปมาด้วยแพ 
เพื่อต้องการสลัดออก ไม่ใช่เพื่อต้องการยึดถือ 
ฉันนั้นแล เธอทั้งหลายรู้ถึงธรรมมีอุปมาด้วยแพ
ที่เราแสดงแล้วแก่ท่านทั้งหลาย
พึงละแม้ซึ่งธรรมทั้งหลาย 
จะป่วยการกล่าวไปไยถึงอธรรมเล่า.
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๒  
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๔
มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์

Image by JosepMonter from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


 

เห็นเท่านี้จริงๆไม่มากเลยนะ


ผู้มีปัญญาจริงๆ 
เห็นเพียงแค่ว่า
มีเพียงทุกข์เท่านั้นที่เกิดขึ้น
มีเพียงทุกข์เท่านั้นที่ดับไป
เห็นเท่านี้จริงๆไม่มากเลยนะ
ทุกข์นี้ก็คือสิ่งที่เรียกกันว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
เห็นได้รู้ได้จากการอบรมสติปัญญา
จนจิตพัฒนาจาก รู้ จนถึง สักว่ารู้

พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

Image by TieuBaoTruong from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


 

โลกุตรธรรมไม่ใช่สิ่งเกินความจำเป็น


...ไม่ตกเป็นทาสของโลกและชีวิต
ไม่ถูกบีบคั้นด้วยอำนาจความยึดติดถือมั่น
สามารถทำจิตให้เป็นอิสระ
ปลอดโปร่ง ผ่องใส
สะอาด สว่างและสงบ 
มีความสุขประณีตภายใน...
โลกุตรธรรมก็กลับกลายเป็น
สิ่งที่มีคุณค่ายิ่ง สำหรับชีวิตนี้
หาใช่สิ่งฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็นอีกต่อไปไม่
เป็นสิ่งที่มีอยู่จริงและทุกคนสามารถสัมผัสได้
จากคำกล่าวของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป. อ. ปยุตฺโต)
..ในหนังสือ พุทธศาสนาไทยในอนาคต
แนวโน้มและทางออกจากวิกฤต ของพระไพศาล วิสาโล

Cr.Fb.Achara Klinsuwan

Image by DarkmoonArt_de from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

การลดตัวตนนั้น พึงเป็นหน้าที่ของทุกคน


โลกุตรธรรม 
ควรเป็นอันหนึ่งอันเดียว
กับชีวิตประจำวันได้ด้วย
ท่านพุทธทาสเป็นท่านหนึ่ง
ที่พยายามนำโลกุตรธรรมกลับมาสู่โลกนี้
โดยเน้นว่านิพพานในชาตินี้เป็นไปได้
และสามารถจะทำได้ท่ามกลางสังคม
ไม่จำเป็นต้องละโลกสู่วัดก็ได้
เพราะการลดตัวตนนั้น
พึงเป็นหน้าที่ของทุกคน
เพื่อใช้ความเป็นมนุษย์ให้คุ้มค่าที่สุด  
ดังท่านเน้นว่า
บวช เพื่อกำจัดอัตตานั้น 
อยู่วัดก็ได้ อยู่บ้านก็ได้
อยู่ถ้ำ อยู่ป่า อยู่เกาะร้างก็ได้  
เพราะการบวชที่แท้จริงที่สุดคือ
การทำชีวิตให้หมดปัญหา 
จะอย่างไร-ที่ไหน-เมื่อไหร่-เท่าไร ก็ได้หมด

พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
..
จากหนังสือ พุทธศาสนาไทยในอนาคต
แนวโน้มและทางออกจากวิกฤต 

Image by DarkmoonArt_de from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

นี่ล่ะบูชาพระพุทธเจ้าสูงสุดเลย


ยึดอะไรไม่ได้เลย วางให้หมด
แม้ผลของการปฏิบัติก็สักแต่ว่า... 
มันเกิดอะไรขึ้นก็ไม่ไปยินดียินร้ายกับอะไร 
มันจะชัด ไม่ชัด ก็ไม่ต้องไปสนอะไร 
จิตไม่ยินดียินร้าย พอ!
ทำเหมือนไม่เอาอะไร 
นี่ล่ะบูชาพระพุทธเจ้าสูงสุดเลย 
ก็คือเอาธรรมที่พระองค์ทรงตรัสรู้เข้ามาในจิตเรา 
หรือพยายามทำตามพระพุทธเจ้าสอน 
โดยเฉพาะเนื้อหาของสิ่งที่พระองค์ทรงตรัสรู้
เนื้อหาของความเป็น "พุทธภาวะ" 
ก็คือ การที่จิตไม่ยึดติดข้องอะไร
ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี ก็สักแต่ว่า... 
สักแต่ว่าสรรพสิ่ง สักแต่ว่าธรรมชาติ

พระอาจารย์ครรชิต สุทธิจิตโต

Image by Foundry from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

เรากำลังผลาญพร่าชีวิตของตน


อย่าอาลัยอาวรณ์กับของเล่น 
อย่ายึดติดมัน พ่อพูดกับอาตมา 
เมื่อเรายึดติดสิ่งที่ไม่ยั่งยืน 
ไม่ว่าของเล่น ของที่ชอบกิน 
เพื่อนสนิท หรือสถานที่พิเศษ 
เรากำลังผลาญพร่าชีวิตของตนไปอย่างเปล่าดาย

ท่านมิงจูร์ รินโปเช

Image by Clker-Free-Vector-Images from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

เครื่องวัดความก้าวหน้าในธรรม


คนเรานี้มี ๒ ประเภท 
คือคนที่ทำ อย่างที่ภาษาปัจจุบัน 
เรียกว่า  ทำตามอารมณ์พวกหนึ่ง 
กับคนที่ทำด้วยปัญญา 
ด้วยเหตุด้วยผล อีกพวกหนึ่ง
เราก็เอาปัญญานี้มาตรวจสอบตนเองว่า 
ในการกระทำของเรา
หรือเราดำเนินชีวิตในแต่ละวันนี้ 
เราได้ใช้ปัญญาแค่ไหน 
หรือเราได้ทำตามอารมณ์แค่ไหน 
ถ้าเราเอาอารมณ์เป็นใหญ่มาก 
ก็แสดงว่าเรายังมีความเจริญก้าวหน้าในธรรมน้อย
ถ้าเราใช้ปัญญา ใช้เหตุ ใช้ผลมาก 
ก็แสดงว่าเราก้าวหน้าในธรรมมาก 

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ปยุตฺโต)

Image by Jplenio from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


 

นี่คือการฝึกออกจากวัฏสงสาร


การให้กลับมารู้สึกตัว
เป็นกระบวนการแห่งการทวนกระแสกลับ 
นี่คือการฝึกออกจากวัฏสงสาร    
ถ้าเราไหลไปตามกระแสมีแต่จ่อมจม 
ไม่พบทางออกของชีวิตใหม่ 
ตัววัฏสงสารคือกระบวนการแห่งจิตที่มันปรุงไปเรื่อยๆ 
เวียนตายเวียนเกิดอยู่ในระบบแห่งความคิดและอารมณ์ต่างๆ 
นี่คือสิ่งที่มนุษย์เป็นมาตลอดหลายพันปี 
เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่เราทวนกลับมาได้ 
กระแสนี้จะพังทลายลงไป แต่พอมันหลุดไปอีก
มันก็ไปสร้างกระแสหมุนวนเข้าไปอีก 
การหลงออกไปมันเป็นเรื่องของธรรมชาติ 
มันเป็นเรื่องความเคยชิน  
จิตมันเคยหลงมาอย่างนั้นตลอด 
มันจำแนวทางนั้นมาไม่รู้กี่ภพกี่ชาติ 
นี่คือสิ่งที่มนุษย์ได้เสมอกันเพราะว่ามีอวิชชา
คือความไม่รู้ ความหลง 
นำพาสู่ร่องรอยเดิมที่เคยเป็นมาตลอด 
เราไม่เคยหักล้างสังสารวัฏเลย   ทำไงดี 
สิ่งที่อาจารย์สอนพยายามพาพวกคุณทำ “กลับมารู้สึกตัว” 
ทวนกลับออกมา สลายไป 
ทุกครั้งที่คุณทวนกลับมาได้มันสลายออกไปทันที 
ใครก็ตามที่ทวนกระแสกลับได้ 
นี่คือการทำบารมี...เพื่อการพ้นทุกข์ 
คือการสร้างเหตุปัจจัยใหม่ สร้างอนุสัยใหม่

พระอาจารย์ครรชิต อกิญฺจโน

Image by Jplenio from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา



 

ต้องทำเราให้เป็นที่พึ่งแก่เราให้ได้


ถูกอยู่..พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง 
พระธรรมเป็นที่พึ่ง 
พระสงฆ์เป็นที่พึ่ง 
แต่เราเป็นที่พึ่งแก่เราไม่ได้ 
แล้วอะไรจะเป็นที่พึ่งแก่เราได้ 
เรานี้ล่ะ จะต้องทำเราให้เป็นที่พึ่งแก่เราให้ได้ 
แล้วทุกสิ่งทุกอย่างเป็นที่พึ่งแก่เราได้หมด 

หลวงปู่แบน ธนากโร

Image by Leolo212 from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา




 

การฉีดวัคซีนให้กับใจ


การเจอความผิดหวังบ้างในชีวิต 
ก็เหมือนกับการฉีดวัคซีนให้กับใจ 
ทำให้รู้ว่าจะไม่เป็นไปตามความหวังเสมอไป 
คราวต่อไปก็จะไม่หวัง 
ถ้าหวังก็ไม่ยึดติดกับความหวังนั้น... 
สิ่งที่ควรมีไว้ในจิตใจ คือ "อนิจจสัญญา" 
ความรู้เกี่ยวกับความไม่เที่ยงแท้แน่นอน
ของสิ่งต่างๆ ในโลกนี้

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

Image by kalhh from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


 

ใจนั้นแหละยิ่งใหญ่จริงๆ


อัตตาที่ยิ่งใหญ่ ถือมั่นในความเห็น
ย่อมต้องสลายตัวลงไปได้ด้วยใจที่อ่อนน้อม
ใจที่ถ่อมตนนั้นไม่ใช่ยอมเพราะเราด้อยกว่า
เพียงแต่ยอมที่จะไม่ยิ่งใหญ่เอง
ใจที่ยอมสละความสำคัญในตัว
ในความคิดความเห็นที่เคยยึดถือไว้
ใจนั้นแหละยิ่งใหญ่จริงๆ

พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต

Image by GoranH from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา


 

ตามทางที่ถูกนั้น มีแต่ทำใจให้อยู่ตามปกติ


..พวกนักปฏิบัติทุกวันนี้ 
ส่วนมากแล้วเอาแบบฤาษี... 
ไม่ได้รู้แนวทางของพระพุทธศาสนาที่แท้จริง 
ตามทางที่ถูกนั้น... 
มีแต่ทำใจให้อยู่ตามปกติ 
หรือสภาพเดิมของใจแท้เท่านั้น 
คือ มีสติอยู่ ตื่นอยู่ เบิกบานอยู่ทุกขณะ 
ไม่ยินดียินร้ายในอารมณ์ของโลก 
อยู่ในความเป็นกลาง... 
ไม่ใช่ว่าจะไปนั่งหมดคืนไม่ลุกจากที่เลย 
อันนั้นบางคนก็นั่งหลับตลอดคืนก็มี 
บางคนก็นั่งชมนิมิตก็มี 
บางทีก็อยู่ได้ด้วยอารมณ์ของฌานก็มี...

หลวงปู่คูณ สิริจันโท


Image by Free-Photos from pixabay

ที่มา  : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา