เราเกิดมาไม่มีประมาณแต่เราไม่เคยเห็นตัวเองเลย
มัวเข้าใจว่าตัวเอง คือ กาย เวทนา สัญญา สังขาร
และวิญญาณ ซึ่งนั่นผิดทั้งหมด
เราคือธาตุรู้หรือจิตต่างหาก
ซึ่งก็คือความรู้สึกนั่นเอง ...
พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า
ให้ทวนกระแสเข้ามาสู่ภายใน
เราจึงควรทวนกระแสเข้ามาภายใน
แล้วก็จะพบธาตุรู้หรือจิตได้ไม่ยาก
ธาตุรู้ ก็คือ ผู้หลับผู้ตื่นหรือตัวชีวิตหรือตัวเป็นโดยตรง
ธาตุรู้ไม่มีตัวตน ไม่มีสีสัน
ไม่มีนิมิตเครื่องหมายใดๆ
ธาตุรู้เป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ เพราะไม่มีตัวตนแต่สามารถรู้สึกได้
ความแตกต่างระหว่างผู้ที่รู้จักธาตุรู้ กับผู้ที่ไม่รู้จักธาตุรู้
ก็คือ ผู้ที่รู้จักธาตุรู้แล้วนั้นจะเป็นตัวของตัวเอง
สามารถควบคุมตัวเองได้ เพราะมีการรู้ตัวโดยตลอด
ผู้ที่รู้จักธาตุรู้นั้นจะอยู่กับตัวเองเสมอ
คือไม่ไหลไปตามความคิด สมมุติว่าเราอยู่จันทบุรี
แล้วเราคิดไปที่ต่างจังหวัด กรุงเทพฯ หรือต่างประเทศ
ธาตุรู้นี้จะอยู่กับตัวเอง ไม่ลืมตัวเอง
เพราะธาตุรู้กับตัวเองคืออันเดียวกัน
แต่ผู้ที่ไม่ได้อยู่กับธาตุรู้ เมื่อคิดไปต่างจังหวัด
กรุงเทพฯ หรือต่างประเทศ
ธาตุรู้ก็จะลืมตัวเองและตามความคิดนั้นไปทุกหนทุกแห่ง
นั่นหมายความว่าจิตไม่เป็นปัจจุบันธรรม
เป็นจิตที่ขาดสติสัมปชัญญะ เป็นผู้ที่ทำก่อนคิด
จึงมักเป็นผู้ที่ผิดพลาดในการกระทำอยู่เสมอ
ลุงหวีด บัวเผื่อน
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา