มี e-card อวยพรปีใหม่มาแจกกันจ้า ไปดาวน์โหลดได้เลยที่ลิงค์ข้างล่างนี้ อวยพรกันแบบทางธรรมนะ สวัสดีปีใหม่ทุกท่านที่ติดตามบล็อก "โอวาทธรรม พระอริยเจ้า"ค่ะ
ถ้ายังเจริญสติเป็นอัตโนมัติไม่ได้
จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
เมื่อรู้จักอารมณ์ แล้วละวางอารมณ์
เมื่อท่านผู้ใดมารู้จักอารมณ์
แล้วกำหนดละวางอารมณ์
ไม่นึกถึงเรื่องที่เป็นอดีต และไม่นึกถึงเรื่องที่เป็นอนาคต
และไม่นึกถึงเรื่องที่เป็นปัจจุบันได้
ท่านผู้นั้นก็จะพบความว่าง พบความสงบ
มีจิตเป็นตัวของตัวเอง ย่อมพ้นทุกข์ทั้งปวง
หลวงปู่ดาบส สุมโน
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
มีศัตรูเป็นบัณฑิต
มีศัตรูเป็นบัณฑิต ดีกว่ามีมิตรเป็นคนพาล
พุทธพจน์
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
ให้กลับมารู้สึกตัว
จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
ถ้ารู้ทันว่าจิตไหลไป ขณะนั้นตั้งมั่น
ถ้าจิตไหลไป แล้วรู้ทันความไหลของจิต
ขณะนั้นจะได้.."สมาธิแบบจิตตั้งมั่น"
ความไหลของจิต..มันแสดงความไม่ตั้งมั่น
จิตถ้าไหลได้..ก็แสดงความไม่ตั้งมั่น
ถ้ารู้ทันว่าจิตไหลไป ขณะนั้นตั้งมั่นพอดี
เพราะจิตมันรู้จิต..พอรู้จิต..จิตไม่ไหล
ครูบาอาจารย์ท่านเรียกว่า "ถึงฐาน"
พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
ละอวิชชาได้เพราะรู้เท่าทัน
อวิชชาเกิดเพราะความรู้ไม่เท่าทัน
ตามสภาพความเป็นจริงในปัจจุบันธรรมนั้น..
การที่จะ "ละอวิชชา" ได้ก็หมายถึง
การรู้เท่าทัน เห็นตามสภาพความเป็นจริงในขณะนั้น..
พระอาจารย์ชยธมฺโมภิกขุ
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
รู้ได้เท่าที่รู้ แต่ไม่หยุดที่จะรู้
จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
เมื่อจิตละความยึดมั่นถือมั่นในตัวตนได้แล้ว
เมื่อจิตละความยึดมั่นถือมั่นในตัวตนได้แล้ว
จิตก็จะไม่สะดุ้งกลัวต่อโรคภัยไข้เจ็บ
ไม่หวั่นไหวต่อมรณภัยทั้งหลาย..
จิตจะเดินไปในท่ามกลางแห่งความสงบเยือกเย็น
..ไม่ติดอยู่ในวัตถุธาตุทั้งหลายในโลกนี้
มองโลกทั้งหลายเป็นของว่าง
จิตจะเข้าถึงสภาวะของธรรมชาติของจิต
อันเป็นธาตุตามธรรมชาติ..
พระอาจารย์อัครเดช (ตั๋น) ถิรจิตโต
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
มารครอบงำจิตใจได้ เพราะใจไม่ตั้งมั่น
มารครอบงำจิตใจได้ เพราะใจไม่ตั้งมั่น
ใจที่ไม่ตั้งมั่น คือใจที่เอนไปเอนมา
เอียงซ้าย เอียงขวา ออกนอก เข้าใน
เมื่อใจส่งออกนอก ก็ไปเกาะไว้กับสิ่งภายนอก
เอนไปทางชอบหรือไม่ชอบ กับสิ่งภายนอกนั้น
ใจจึงถูกครอบงำด้วยมาร คือความชอบ-ชัง
บดบังความสงบ สะอาด บริสุทธิ์แต่ดั้งเดิม
พระอาจารย์อำนาจ โอภาโส
จะรู้ได้อย่างไรว่ารู้สึกตัว
จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
ดู หรือรู้เฉยๆ ตามที่เป็นจริง
ความรู้สึกต่อสิ่งที่มากระทบนั้นสำคัญมากกว่าสิ่งที่มากระทบ
ไม่ว่าจะกระทบทางตา หู จมูก ลิ้น กาย หรือใจ
การรู้เฉยๆ คือทั้งไม่ชอบและไม่ชัง
ไม่ให้ค่าทั้งในทางลบหรือบวก
แค่ดู หรือรู้เฉยๆ ตามที่เป็นจริง
นี้เป็นทักษะที่สำคัญของการเจริญสติ การทำสมาธิภาวนา
และสามารถจะนำมาใช้ในการดำเนินชีวิตให้ปกติให้ผาสุกได้
แม้จะเจออะไรต่ออะไรมากมายมากระทบก็ตาม
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
ธรรมารมณ์อันเกิดจากอายตนะสัมผัส คือ ภัยร้ายแรงที่สุดของจิต
ธรรมารมณ์อันเกิดจากอายตนะส ัมผัส
คือ ภัยร้ายแรงที่สุดของจิต
เพราะเผาจิตตนเองตั้งแต่ตื่ นยันหลับ
ดังนั้นวันหนึ่งๆ จึงไม่มีใครมาทำร้ายเรา
ได้มากเท่ากับอารมณ์จิตของเ รา ทำร้ายจิตเราเอง
หรือทุกข์ใดที่ยิ่งไปกว่าอา รมณ์จิตตนเอง
ทำร้ายตนเองนั้นไม่มี
คำสอนสมเด็จองค์ปฐม
ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม 17
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ. สมศักดิ์ สืบสงวน
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
เราเลือกเวลาภาวนาไม่ได้เลย
จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
เราได้ภาวนานั้นคือพระพุทธเจ้าอยู่กับเรา
พระพุทธเจ้าเตือนพวกเราว่า "วันคืนล่วงไปๆ เธอทำอะไรอยู่"
เราได้พิจารณากาย เวทนา จิต ธรรม จริงไหม..
เราได้ภาวนานั้นคือพระพุทธเจ้าอยู่กับเรา
พิจารณากายเวทนา จิต ธรรม..
ผู้ใดเห็นจิตเศร้าหมอง เห็นจิตผ่องใส ผู้นั้นเห็นธรรม
ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต
เห็นตัวสภาวะ นั่งยืนเดินนอนเป็นไตรลักษณ์
เป็นพุทธสภาวะ เกิดดับๆ ไป
เราก็...พระพุทธเจ้าอยู่กับเรา คุ้มครองเรา
ไม่ให้ตกไปที่ต่ำ นี้แหละคือธรรมะ..
หลวงพ่อประสิทธิ์ ถาวโร
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
รู้ทุกข์เมื่อไหร่ สมุทัยถูกละเมื่อนั้น
อวิชชาคือความไม่รู้ทุกข์นั่นเอง คือไม่รู้ว่ากายกับใจมันเป็นตัวทุกข์
เราไปคิดว่ากายกับใจเป็นตัวเรา เป็นตัวดีตัววิเศษ
แต่ว่าถ้าเรามาเจริญสติรู้กาย เจริญสติรู้ใจ เรารู้มากเข้ามากเข้า
จะเห็นเลยว่าทั้งกายทั้งใจนี่ เป็นตัวทุกข์ล้วนๆ นะ
พอมันเห็นกายเห็นใจเป็นทุกข์แจ่มแจ้งปุ๊บ
สมุทัยจะเป็นอันถูกละอัตโนมัติเลย
ฉะนั้นรู้ทุกข์เมื่อไหร่ สมุทัยถูกละเมื่อนั้น จำไว้นะ
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
จิตตั้งมั่นในปัจจุบัน ย่อมเกิดปัญญาพิเศษ
เมื่อลมไม่พัด แสงไฟก็ย่อมสว่างไสว
ถ้าลมพัด ไฟนั้นก็จะสว่างเป็นที่ๆ ไป
เปรียบได้กับจิตที่ตั้งเที่ยง ไม่เอียงไปตามสัญญาอดีต อนาคต
ตั้งมั่นอยู่แต่ในปัจจุบัน ก็ย่อมจะเกิดแสงสว่าง
เกิดปัญญาพิเศษขึ้น
ปัญญาพิเศษนี้ไม่มีครูบาอาจารย์มาสอนให้เกิดขึ้นได้
จะต้องปฏิบัติเอง ให้เกิดการรู้แจ้งเห็นจริงด้วยตนเอง
ท่านพ่อลี ธัมมธโร
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
สังเกตการณ์อยู่บ่อยๆ คือทำความเพียร
..ให้ดูภายใน จะดูลมหายใจ นี่ก็คือดูธาตุสี่
ให้มีสติที่ประกอบด้วยสัมปชัญญะ คือรู้ตัว
สติกับรู้ หรือ สติกับใจ จะว่าเป็นอันเดียวกันก็ได้
ถ้าไม่มีสติก็คือไม่มีรู้..
ส่วนคำว่า “ตัว” ก็คือ รูป ร่างกายนี้ ...
ตัวธาตุสี่นี้ ให้รู้ที่มันนี่แหละ
ถ้าศึกษาบ่อยๆ แล้วๆ เล่าๆ ซ้ำๆ ซากๆ
มันจะกลับเข้ามากินอารมณ์ภายในเอง
ไม่ว่าจะนั่ง หรือเดินจงกรม นั่งหลับตา หรือลืมตาก็ตาม
สังเกตการณ์อยู่บ่อยๆ นี่คือทำความเพียร
หลวงพ่อไพฑูรย์ ขันติโก
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
ขอแค่เพียงรู้สึกตัวให้เป็น
จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
รู้เฉยๆ รู้ เท่านั้นเอง
จิตมันหยุดแล้ว มันรู้เลย รู้ตรงนี้ มันจบ นี่แหละ ธรรมะ..
คนเราเวลาปฏิบัติธรรม มักจะมุ่งให้มันได้อะไรๆ
แต่ไม่เห็นธรรมดาๆ อย่างนี้ คือต้องมีสิ่งที่วิเศษกว่านี้
มันไม่มีอะไรดีกว่านี้ มีแค่นี้แหละ
คอยประคับประคอง เบาๆ มันคอยจะแว้บออกไป
ถ้าไม่รู้มันก็เกิด ถ้ารู้มันก็ดับ คอยรู้ไว้ รู้ปุ๊บดับปั๊บ..
หลวงพ่อสมบูรณ์ ฉตฺตสุวณฺโณ
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
อันความฟุ้งซ่านนั่น ให้เรารู้ว่าเรามีสมาธิแล้ว
บางคนต้องการความสงบ ไม่อยากให้มันคิด
อันนี้ วิธีนี้ ไม่ต้องห้ามความคิด
ให้มันคิด มันยิ่งคิด เรายิ่งรู้
มันคิดมากเท่าไรก็ดีแล้ว เราจะรู้มากขึ้น
บางคนรำคาญว่าจิตใจฟุ้งซ่าน ไม่มีสมาธิ
แน่ะ...เข้าใจไปอย่างนั้น
ดีแล้ว จิตใจฟุ้งซ่าน ถ้าหากว่ามันไม่ฟุ้งซ่าน เราจะไม่รู้
อันความฟุ้งซ่านนั่นนะ ให้เรารู้ว่าเรามีสมาธิแล้ว
เราจึงรู้ว่าจิตใจฟุ้งซ่าน รำคาญมาก
ให้มันคิด มันยิ่งคิด เรายิ่งรู้ แต่ทำความรู้สึกให้มาก
อย่าหยุดการทำความรู้สึก แต่อย่าเพ่ง
เมื่อความคิดมันมากขึ้นๆ ความรู้ก็มากขึ้นๆ เทียบเท่าทันกันเข้า
ความคิดนั้นจะลดน้อยไป บัดนี้ ตัวความรู้จะมากขึ้นๆ
หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
สิ่งใดชัดก็รู้สิ่งนั้น
จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
ไม่ยากหรือง่าย ในการเรียนรู้กายใจ
จากหนังสือ เพียงแค่รู้สึกตัว โดย พระอาจารย์เจษฎา คุตฺตจิตฺโต
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
มีสติรู้กายอยู่เนืองๆ เรียกว่าภาวนา
การปฏิบัติธรรมมีไม่มาก
เรามาสร้างตัวรู้สึกตัว สร้างความรู้สึกตัวให้มากๆ
ความรู้สึกตัวเป็นธรรมะฝ่ายกุศล
กุศลอื่นที่ยังไม่ได้เกิดก็จะเกิดขึ้น
ที่เกิดขึ้นแล้วก็เจริญมากขึ้น
ถ้าไม่มีความรู้สึกตัวก็ไปในทางหลง
ความหลงเป็นฝ่ายอกุศล
มีสติรู้กายอยู่เนืองๆ เรียกว่าภาวนา
หลวงพ่อคำเขียน สุวัณโณ
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
สติควบคุมจิต เป็นยอดแห่งความปรารถนา
เมื่อสติเห็นจิต คุมจิตอยู่แล้ว
ความปลอดโปร่งแห่งจิตจะหาที่สุดไม่ได้
ความรู้ต่างๆ ก็เช่นเดียวกัน
ย่อมเกิดจากสติควบคุมจิตนี้ทั้งนั้น
ฉะนั้นสติควบคุมจิต
จึงเป็นยอดแห่งความปรารถนา
ของผู้ปฏิบัติกรรมฐานโดยแท้
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
จิตใจที่ฝึกดีแล้วไม่เป็นไปตามกระแสโลก
พยายามฝึกจิตใจให้มีความเข้ มแข็ง
ให้มีภูมิต้านทานต่อกระแสโล ก
ก่อนออกทำงานจะได้มีความสุข สบาย
ก็ไม่ค่อยทำกัน...
สุดท้ายก็บ่นว่าทุกข์ ๆๆๆๆๆ ...
เพราะจิตใจที่ฝึกดีแล้ว
เขาไม่สุขไม่ทุกข์
และเขาไม่เป็นไปตามกระแสโลก ...
ผู้เป็นเจ้าของก็สบาย
พระอาจารย์ชายแดน สีลสุทโธ
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
อย่าจำกัดการเติบโตของปัญญาไว้ด้วยทิฏฐิ
อย่าจำกัดการเติบโตของปัญญาไว้ด้วยทิฏฐิ
อย่าปิดบังปัญญาด้วยความคิดเห็นเข้าข้างตนเอง
อย่าบิดเบือนปัญญาด้วยการลำเอียงใดๆ
ปุถุชนมองสิ่งทั้งปวงในขอบเขตที่ตัวเองอยากให้เป็น
พระอริยะมองสิ่งทั้งปวงตามที่มันเป็นจริง
นั่นคือจิตที่พ้นจากสักกายทิฏฐิ
พระอาจารย์ชุมพล พลปญฺโญ
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
ถ้า “ชนะใจ” ได้แล้ว ทุกคนสบาย
ชนะผู้อื่น เขาก็คับแค้นใจ เราก็ไม่สบายใจ
ผู้อื่นชนะเรา เราก็คับแค้นใจ เขาก็ไม่สบายใจ
แต่ถ้า “ชนะใจ” ได้แล้ว ทุกคนสบาย
เขาก็สบาย เราก็สบาย
นี่แหละคือวิถีของนักปราชญ์ เป็นอย่างนี้
พวกเราส่วนใหญ่ที่ยังเป็นนั กปราชญ์กันไม่ได้
เพราะเราต่อสู้กับอารมณ์ของ เราไม่ได้
อารมณ์ของเรามักจะมีอำนาจคร อบงำใจเรา
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
รักษาสมาธิจิตไว้ได้ ปัญญาก็มีอยู่ประจำ
..ถ้าผู้ใดตามจิตตัวเอง
ตามรู้จิตใจตัวเองไปเสมออย่ างนี้แล้ว
กิริยาอาการของจิตมันผิดปกต ิไปขณะไหนก็รู้ได้ขณะนั้น
อย่างนี้นั่นละ มันจึงมีทางรักษาสมาธิให้สม ่ำเสมอไปได้..
อุบายวิธีฝึกจิตนะ มันสำคัญแท้ๆ
เรื่องการรักษาสมาธิจิตไว้ใ ห้ได้นี่นะ เมื่อรักษาสมาธิจิตไว้ได้แล ้ว
ปัญญานั้นมันก็มีอยู่ประจำ อยู่กับจิตเสมอไป..
หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
พระนิพพานอยู่ฟากตาย ความสุขก็อยู่ฟากทุกข์
พระนิพพานอยู่ฟากตาย ความสุขก็อยู่ฟากทุกข์
เราทำความเพียรภาวนาไป
พอถึงทุกข์ก็เกิดกลัวความทุกข์เสียแล้ว
แล้วเมื่อใดจะพ้นทุกข์ไปได้เล่า
การกลัว ควรกลัวแต่ในทางที่ผิด
คือกลัวความผิด ไม่กระทำผิด
กลัวว่าตนเองจะไม่พ้นจากวัฏฏทุกข์
แล้วรีบเร่งบำเพ็ญความเพียรเข้าถึงจะถูก
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
การวางอารมณ์ คือไม่ยึดไม่ติดอารมณ์
การวางอารมณ์ คือไม่ยึดไม่ติดอารมณ์
ทั้งอดีตที่ล่วงไปแล้ว ทั้งอนาคตที่ยังมาไม่ถึง
มีเพียงสติสัมปชัญญะให้จิตตื่นอยู่ในปัจจุบันเท่านั้น
ดังข้อความในภัทเทกรัตตคาถาว่า
"อตีตํ นานฺวาคเมยฺย นปฺปฏิกงฺเข อนาคตํ" เป็นต้นว่า
ผู้มีปัญญาไม่ควรคำนึงถึงสิ่งที่ล่วงลับไปแล้ว
ไม่พึงหวังสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
เพราะอดีตมันก็ล่วงไปแล้ว อนาคตก็ยังมาไม่ถึง
และผู้ใดเห็นธรรมที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า ไม่ง่อนแง่นคลอนแคลน
เขาพึงพอกพูนความเห็นนั้นไว้
หลวงพ่อกนฺตสิริ (กนฺตสิริ ภิกฺขุ)
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
ความรู้สึกตัวหรือสัมมาสติ นี้คือพุทธโอสถ
ความรู้สึกตัวหรือสัมมาสติ
นี้คือพุทธโอสถ
จิตเสพคุ้นอยู่กับความรู้ตัว
ที่เป็นปัจจุบันธรรม ปัจจุบันขณะ
ระลึกรู้มากๆ เข้า
จิตจะคลายทุกข์ที่หลงกลืนนั้นออกมา
จิตเกิดการอาเจียน
เกิดการสำรอกกิเลสตัณหาออกมา
เพราะยาเม็ดเดียวนี้แท้ๆ
หลวงตาสุริยา วัดป่าโสมพนัส
(ส.มหาปัญโญภิกขุ)
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
รู้ไม่ใช่กำหนดรู้ ..แต่สักแต่ว่ารู้
ฝึกตามรู้จิต/สังเกตจิต จิตจะรู้สึกอย่างไร
(ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี) ก็รู้แค่นั้น (อย่าคิดวิพากษ์ต่อ)
ไม่ใช่ดักรู้จิต ไม่ใช่เพ่ง ไม่ใช่เผลอ/ลืมตัว แต่ฝึกรู้สึกตัว
(รู้เนื้อรู้ตัว) อย่างง่ายๆ สบายๆ เอาไว้เสมอๆ ไม่ว่าจะทำอะไร
(เมื่อ “รู้” แล้วก็ไม่ใช่อยากหรือพยายามประคองตัวรู้เอาไว้)
รู้ไม่ใช้คิด (เว้นมีกิจการงานที่ต้องใช้ความคิด)
รู้ไม่ใช่กำหนดรู้ ..แต่สักแต่ว่ารู้
หลวงปู่ดูลย์ อตุโล
จากหนังสือ “หลวงปู่ฝากไว้”
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
จงรักษาอินทรีย์ ที่รูป, เสียง, กลิ่น, รส, และผัสสะทั้งหลาย
จงรักษาอินทรีย์ ที่รูป, เสียง, กลิ่น, รส,
และผัสสะทั้งหลาย
เพราะว่า ทวารเหล่านี้ถูกเปิดทิ้งไว้ไม่รักษา
ย่อมจะถูกโจรคือกิเลสปล้นเอา
เหมือนพวกโจรปล้นบ้าน ฉะนั้น
ฝนย่อมรั่วรดเรือนที่มุงไม่ดี ฉันใด
ราคะย่อมจะรั่วไหลไปสู่จิต
ที่ไม่ได้อบรมแล้ว ฉันนั้น
วิสุทธิมรรค เล่ม ๑ ภาคศีล ปริเฉทที่ ๑ สีลนิเทศ
หน้าที่ ๕๑ – ๕๕
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
พอใจว่าสติดีมั่นคง ก็เป็นความเศร้าหมองของวิปัสสนา
นิกันติ คือ การเข้าไปยินดีพอใจ เข้าไปติดใจ
เข้าไปหลงใหลกับสภาพธรรมที่เกิดขึ้นเหล่านั้น
อันนี้แหละที่ทำให้วิปัสสนาเศร้าหมอง วิปัสสนาเจริญต่อไปไม่ได้..
คือ มันไม่เห็นความเกิดดับ
ถ้าเรามีความสงบ แล้วเราพอใจ ติดใจอยู่กับความสงบ ...
มีปีติแล้วยินดีติดใจอยู่กับปีติ
มีสุขแล้วก็ยินดีติดใจอยู่กับความสุข
มีปัญญาก็ติดใจพอใจอยู่กับปัญญา..
แม้แต่สติ...สติที่เกิดขึ้นมาคล่องแคล่วว่องไว รับรู้เท่าทัน
เกิดความยินดีพอใจว่าเรามีสติดีมั่นคง
ก็เป็นความเศร้าหมองของวิปัสสนาได้
ฉะนั้น ท่านจึงสอนให้ละความยินดีติดใจ
เกิดปีติก็เข้าไปรู้แล้วก็ดูจิต มีความพอใจติดใจไหม
ถ้ามีความพอใจติดใจ ก็รู้เท่าทันเพื่อคลี่คลายให้จิตปรกติ
พระอาจารย์สุรศักดิ์ เขมรังสี
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
ความคิดมันกลัวสติ กลัวเรารู้ทัน
การเอาชนะความคิดนั้น ก็ต้องอาศัยความรู้สึกตัวนี่แหละ
รู้ให้ทันในความคิดที่มันเกิดขึ้น
ถ้าไม่มีความรู้สึกตัวนี่ เอาชนะความคิดไม่ได้
รู้ไหมว่าความคิดนี่มันกลัวอะไร
ความคิดมันกลัวสติ กลัวเรารู้ทัน
ถ้าเรารู้ทันเมื่อไร ความคิดมันเกิดขึ้นแล้วก็จะดับไปเลย
อ.กำพล ทองบุญนุ่ม
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
อธิศีล ศีลที่รักษาคนปฏิบัติ
เวลาเรามีสติเพิ่มขึ้นจนถึงระดับหนึ่ง
ที่เราสามารถมองเห็นความคิดของตัวเอง
เห็นความรู้สึกของตัวเอง เห็นเจตนาในใจตัวเอง
ต่อไปเราจะไม่ใช่คนรักษาศีล
แต่ว่าศีลจะรักษาเรา
ตอนที่เรายังไม่ได้ฝึก เราต้องรักษาศีล
การที่ต้องรักษานี้แสดงว่าเราไม่อิสระ
ต้องเป็นข้อๆ เยอะไปหมด
ยิ่งถ้าเป็นของพระภิกษุยิ่งเยอะใหญ่
แต่เมื่อเราฝึกสติ จะเป็นการรักษาที่ตัวจิต
ต่อไปไม่ใช่เรารักษาศีลแล้ว
แต่เป็นศีลที่รักษาเรา ไม่ให้เราทำอะไรผิดพลาดออกมาทางกายทางวาจา
ต่อไปสติเห็นความคิดปั๊บ ความคิดนั้นก็หยุดลง
เห็นเจตนาที่ไม่ดี ก็ไม่หลงทำตามมัน
ไม่นำเราไปทำสิ่งที่ผิดพลาด
นี้เรียกว่าอธิศีล เป็นศีลที่รักษาคนปฏิบัติ
อ.สุภีร์ ทุมทอง
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
ถ้าไม่สนใจความฟุ้งซ่าน จะดับไปเอง
..แม้ว่าเวทนาจะแรงกล้าแค่ไหน อย่างตอนเวลานั่งแล้วปวดขา
คือขาปวดก็ปวดไป แต่ฉันจะนั่งของฉันอย่างนี้
เวทนาจะไม่สามารถทำให้เราเป็นทุกข์ แต่เวทนานั้นก็ยังคงมีอยู่
เวลาความฟุ้งซ่านเกิดขึ้น ก็ปล่อยให้ฟุ้งไป
ถ้าเราไม่สนใจมัน มันก็ดับไปเอง ไม่ต้องไปทุกข์กับมัน
พระอาจารย์ครรชิต อกิญจโน
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
สุขอัศจรรย์เกิดจากรู้ทุกข์สุขในปัจจุบัน
เมื่อใดมีความทุกข์
เมื่อนั้นความสุขกำลังจะมา
เมื่อใดมีความสุข
เมื่อนั้นความทุกข์กำลังจะมา
ถ้าเรามีสติกำหนดรู้ทุกข์และสุข
ที่กำลังเกิดในปัจจุบัน
เราจะพบสุขที่น่าอัศจรรย์
โดยมิอาจจะบรรยายออกมาได้เลย
พระอาจารย์มหาบุญทัน รตนปญฺโญ
ที่มา : เพจบ้านจตุรทวีปประทาน เพื่องานพระศาสนา
https://www.facebook.com/Jaturataweep/
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)